สธ.เผยเพชรบุรีมีผู้ป่วยตกค้างส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้ 742 ราย เร่งตรวจคัดกรองผ่าน 3 รพ. ตรวจแล้ว 412 ราย พบติ่งเนื้อส่อมะเร็ง 35% ตัดติ่งเนื้อจนปลอดภัยแล้ว พบมะเร็งลำไส้ 2.9% ส่งเข้าระบบรักษา วางแผนตรวจเพิ่มเดือนละ 30 ราย ช่วยเข้าถึงบริการ ลดแออัด
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 5 เปิดเผยว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป็น 1 ใน 5 ของโรคมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นต่อเนื่อง สธ.จึงมีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงให้กับประชาชน ด้วยวิธีตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FIT test) ผู้ที่มีผลเป็นบวกจะได้รับการตรวจด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อค้นหาโรคมะเร็งและส่งเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต โดยปีงบประมาณ 2565 – 2566 จ.เพชรบุรี มีการตรวจ FIT test 10,203 ราย ผลบวก 1,309 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.83 จำนวนนี้ ตรวจส่องกล้องแล้ว 567 ราย คงค้างอีก 742 ราย ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสเข้ารับการรักษาที่รวดเร็ว หากป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง
ทั้งนี้ เพื่อเร่งรัดการตรวจคัดกรองผู้ป่วยตกค้าง รพ. 3 แห่ง ใน จ.เพชรบุรี ได้แก่ รพ.พระจอมเกล้า รพ.ชะอำ และ รพ.ท่ายาง จึงร่วมมือกันจัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยวิธีส่องกล้อง (Colonoscopy) และศึกษาเปรียบเทียบการส่องกล้องลำไส้ใหญ่โดยใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ที่ศูนย์ผ่าตัดแบบวันเดียวกลับของ รพ.ทั้ง 3 แห่ง ระหว่างวันที่ 19 – 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนจาก รพ. 8 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 5 คือนครปฐม, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี ทั้งทีมศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ วิสัญญีพยาบาล พยาบาลห้องผ่าตัด พยาบาลศัลยกรรม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจทั้งหมด 412 ราย พบติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ที่อาจจะกลายเป็นมะเร็งในอนาคต 145 ราย คิดเป็นร้อยละ 35.2 แพทย์ได้ทำการตัดติ่งเนื้อจนผู้ป่วยปลอดภัยทุกราย และพบผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในลำไส้ 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.9 โดยส่งเข้าสู่กระบวนการรักษาใน รพ.แล้ว
สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเป้าหมายที่ยังตกค้างและผู้ป่วยรายใหม่ รพ.ทั้ง 3 แห่ง ได้วางแผนให้บริการตรวจเพิ่มรวมเดือนละ 30 ราย โดย รพ.ชะอำและ รพ.ท่ายางได้ส่งพยาบาลเข้ารับการเพิ่มพูนความรู้และฝึกประสบการณ์เพิ่มเติมที่ รพ.พระจอมเกล้า ในปีถัดไปจะจัดหาเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อหมุนเวียนไปให้บริการใน รพ.ต่างๆ และจัดช่วงเวลารณรงค์ตรวจคัดกรองด้วยวิธี Colonoscopy เพื่อลดระยะเวลารอคอยให้สั้นลง โครงการนี้จึงช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากโรคมะเร็งลำไส้ เป็นต้นแบบ one hospital one province one region ที่ช่วยลดแออัดและรอคอยรักษาของผู้ป่วย