สบส.เร่งตรวจสอบเพิ่ม หลังพบ "เอเยนต์" เอาชื่อคนป่วยไปหลอกซื้อยาลดความอ้วนจาก "ยันฮีคลินิกเวชกรรม" พร้อมตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพ "แพทย์แผนจีน" หลังพบเป็นคนสั่งจ่ายยา ผิดมาตรฐานหรือไม่ คาดรู้ผลเร็วๆ นี้
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ตำรวจสากล ป.ป.ส. มีการแถลงจับกุมสมุนเครือข่าย "มาเรีย คิม" เจ้าแม่วงการยาลดความอ้วน ที่มีการผลิต บรรจุ และจัดส่งขายยาลดความอ้วน (ไซบูทรามีน) ข้ามชาติ โดยพบใบเสร็จ "ยันฮีคลินิกเวชกรรม" จากการตรวจสอบพบเอเยนต์ชาวไทยเปิด OPD กับทางสถานพยาบาลเพื่อให้ได้ เลขประจำตัวผู้ป่วย (เลข HN) จากนั้นเครือข่ายจะโทรสั่งซื้อยาลดน้ำหนักจากสถานพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่นำยามาให้ ขณะที่ผู้สั่งจ่ายยาเป็นแพทย์แผนจีน
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า เรื่องนี้เท่าที่ติดตามตามข่าว คือ เป็นแพทย์แผนจีนที่เป็นคนสั่งจ่ายยาเวชกรรม ซึ่งเป็นยาลดความอ้วน โดยมีการเอาชื่อคนป่วยไปหลอกซื้อยามาจากคลินิก โดยที่คนไข้ไม่ได้ไปจริง และเอายาลดความอ้วนที่ได้ส่งไปขายต่างประเทศ ซึ่ง สบส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องรอการตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพการแพทย์แผนไทยจีน จากทางกรรมการวิชาชีพการแพทย์แผนจีนและอนุกรรมการวิชาการก่อนว่า แพทย์แผนจีนมีมาตรฐานวิชาชีพอะไร สามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ อย่างกรณีไปจ่ายยาต่างๆ ถ้าไม่ใช่สมุนไพรจีนก็อาจจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องให้ทางกรรมการวิชาชีพไปว่ากันตรงนี้ก่อน หากพิจารณาว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานแพทย์แผนจีนที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีนี้สถานพยาบาลมีความผิดอยู่แล้ว ถ้าเรามองว่าไม่ใช่มาตรฐานทางวิชาชีพ ก็จะผิดทั้งในส่วนของผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการด้วย ผิดทั้งหมด เพราะเกี่ยวข้องกันหมด
"การจ่ายยาลดความอ้วนต้องมีการวินิจฉัยโรค ต้องมาจากการส่งแล็บวินิจฉัย มีการจ่ายยาที่ถูกต้องตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งแพทย์แผนจีนจะมี 3 อย่าง คือ การฝังเข็ม นวดทุยหนา และจ่ายยาสมุนไพรจีน ส่วนการครอบแก้วเป็นบริการส่วนเสริม โดยหลักๆ จะมีเพียง 3 อย่างนี้ แต่จะไม่มีกลไกไปเกี่ยวข้องกับทางแพทย์แผนปัจจุบัน จึงต้องรอการตรวจสอบกับทางสภาวิชาชีพก่อนว่า มีการกระทำที่ผิดมาตรฐานวิชาชีพไหม สามารถจ่ายยาตัวนี้ได้หรือไม่ เพราะมาตรฐานวิชาชีพไม่ได้กำหนดขนาดนั้น และยาตัวนี้เป็นยาแผนปัจจุบัน" ทพ.อาคมกล่าว
ถามว่ามีเอเยนต์รับผู้ป่วยมาหลอกซื้อยาจะต้องดำเนินการตรวจสอบหรือเอาผิดอย่างไร ทพ.อาคมกล่าวว่า กรณีนี้ต้องขอตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งให้ชัดเจน ในเรื่องการคัดกรองประเภท รายละเอียด พอชัดเจนจะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
ถามอีกว่าคลินิกมีแพทย์แผนปัจจุบันที่เป็นผู้จ่ายยาด้วยหรือไม่ ทพ.อาคมกล่าวว่า ถ้ามีแพทย์แผนปัจจุบันก็ต้องเปิดเป็นสหคลินิก ถ้าไม่ได้เป็นเป็นสหคลินิกก็จะไม่มีแพทย์ในส่วนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเปิดเป็นคลินิกเวชกรรมธรรมดาก็ต้องดูว่าสามารถทำอะไรได้แค่ไหนอย่างไร ซึ่งต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน
ถามว่าในใบประวัติรักษาสั่งจ่ายยาสมุนไพรและยาแผนปัจจุบันลักษณะที่มีความถี่สูง ปริมาณจ่ายยามากผิดปกติ ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ ทพ.อาคมกล่าวว่า ก็ต้องดูว่ามาตรฐานวิชาชีพให้จ่ายอะไรได้แค่ไหน ซึ่งจะมีแพทยสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องหารือกับทางแพทยสภาและมาตรฐานการให้บริการของการแพทย์แผนจีน และมาสรุปว่าเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องและทำขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ก็ว่ากันตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าใช้เวลาไม่นานน่าจะทราบผลและจะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป