ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิงรชยา จินตวลากร
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สภาวะปากแหว่งเพดานโหว่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขปัญหาหนึ่ง ส่งผลต่อผู้ป่วยทั้งด้านการทำงานระบบบดเคี้ยว และการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากทำให้เกิดปัญหาทางร่างกายแล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจและสังคมตามมา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนและด้อยโอกาส การรักษาทางทันตกรรมในผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ (cleft lip and cleft palate) เป็นหนึ่งในภารกิจของทันตแพทย์ ที่มีหน้าที่โดยตรงในการรักษาร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์สาขาอื่น ๆ
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือจากวัสดุฉลาด (Smart Materials) หรือ นิกเกิลไทเทเนียม (Nickle Titanium) เนื่องจากวัสดุชนิดนี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือสามารถจำรูปได้ (shape memory) และมีความยืดหยุ่นสูง (superelasticity) ทำให้แรงที่ได้จากวัสดุชนิดนี้มีขนาดเบา และคงที่ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเครื่องมือยืดสันกระดูก เนื่องจากปัญหาการใช้เครื่องมือประเภทนี้ในการยืดกระดูกโดยการไขสกรูจะให้แรงสูง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวด ดังนั้น การนำวัสดุนิกเกิลไทเทเนียมที่มีมาพัฒนาและออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้ลดอาการเจ็บปวดจากการไขสกรูได้ เครื่องมือชนิดนี้ได้ทำการขอจดสิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นผลงานการประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร
ลักษณะโดดเด่นของเครื่องมือยืดสันกระดูกขากรรไกร คือ ตัวที่ใช้ให้แรงเป็นขดลวดนิกเกิลไทเทเนียม ซึ่งให้แรงเบา ๆ อย่างต่อเนื่องและคงที่ โดยก่อนหน้านี้หากไม่ใช้เป็นขดลวดจะใช้วิธีการไขสกรูซึ่งจะให้แรงค่อนข้างสูง ทำให้คนไข้เจ็บปวดพอสมควร คนไข้ต้องไขเองที่บ้านวันละ 2 ครั้ง เช้า/เย็น แต่ขดลวดนิกเกิลไทเทเนียมไม่ต้องไขสกรู จะให้แรงต่อเนื่องตามระยะทางที่กำหนดไว้ ช่วยยืดกระดูกให้ยาวขึ้นตามที่ระยะที่ทันตแพทย์กำหนด โดยหลักการในการยืดกระดูก คือ ตัดกระดูกให้หักก่อนแล้วค่อยยืดเบา ๆ ด้วยแรงและระยะเวลาที่กำหนด ร่างกายจะพยายามซ่อมสร้างกระดูกตามระยะที่ยืดห่างออกทำให้กระดูกมีความยาวเพิ่มขึ้น โดยเครื่องมือนี้เดิมทีใช้ในการยืดสันกระดูกที่เตี้ย แต่สามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยที่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ที่มีขากรรไกรบนขนาดเล็กเนื่องจากเด็กได้รับการเย็บเพดานและเย็บริมฝีปาก แต่ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แผลเป็นจากการเย็บขัดขวางการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน ทำให้เกิดการสบฟันที่ผิดปกติ โดยมีลักษณะฟันหน้าล่างคร่อมฟันหน้าบน ซึ่งการรักษาด้วยการผ่าตัดขากรรไกรบนในผู้ป่วยกลุ่มนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง ดังนั้น เครื่องมือยืดสันกระดูกขากรรไกรก็เป็นตัวเลือกหนึ่งในการวางแผนการรักษา
ก่อนหน้านี้มีเครื่องมือยืดสันกระดูกที่เป็นสกรูอยู่แล้ว แต่มีราคาค่อนข้างสูง คนไข้กลุ่มที่เป็นเด็กด้อยโอกาสมีค่อนข้างเยอะ จึงอยากทำเครื่องมือใช้ในประเทศ ที่มีราคาถูกกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งหากทำได้เวลาใส่เครื่องมือในเด็กกลุ่มนี้ เครื่องมือก็จะยืดขากรรไกรบนด้วยแรงเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ ปรับตัวได้ดี ช่วยลดปัญหาการคืนกลับหลังการผ่าตัดได้ และเนื่องจากเครื่องมือค่อย ๆ ยืดได้เองผู้ป่วยสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ในระหว่างยืดสันกระดูก
เครื่องมือนี้เดิมทีใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาสันกระดูกเตี้ยที่มักพบได้ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ถอนฟันไปนานจนสันกระดูกฟันเตี้ยทำให้ไม่สามารถใส่ฟันเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีกระดูกรองรับฟันเทียม รวมถึงหากจะใส่รากเทียมก็ใส่ไม่ได้ เพราะสันกระดูกเตี้ย ดังนั้น หากเราใช้เครื่องมือยืดสันกระดูกให้สูงขึ้นจะสามารถใส่รากเทียมได้ โดยเมื่อใส่เครื่องมือในปากคนไข้แล้ว สามารถกลับบ้านได้ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
เนื่องจากเครื่องมือชนิดนี้พึ่งได้รับอนุสิทธิบัตร จึงยังอยู่ในระหว่างกระบวนการศึกษาวิจัยและทดลองก่อนนำมาใช้รักษาผู้ป่วย โดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1-2 ปี หากปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ก็จะเริ่มนำเครื่องมือยืดสันกระดูกขากรรไกรชิ้นนี้มาใช้ในกลุ่มโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยก่อน ถ้าได้ใช้จริงก็ใช้ในกลุ่มคนไข้ที่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ จะเสริมกับการดูแลผู้ป่วยโดยองค์รวมของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งให้การดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงการแก้ไขการสบฟันผิดปกติทั้งการจัดฟัน รวมถึงการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด
วัสดุฉลาดเพื่อการแพทย์ เปรียบเสมือนการเปิดโลกอีกใบในการพัฒนาเครื่องมือที่มีความหลากหลายทางการแพทย์ เช่น เครื่องมือยืดสันกระดูกขากรรไกรที่ทำจากวัสดุฉลาดนิกเกิลไทเทเนียม ซึ่งจริง ๆ เป็นวัสดุที่เราได้ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ตัวควบคุมอุณหภูมิของฝักบัว ขอบเสื้อชั้นในบราที่ไม่บิดไม่งอ วัสดุเหล่านี้ทำมาจากนิกเกิลไทเทเนียมที่มีคุณลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเครื่องมือทางด้านการแพทย์จากวัสดุฉลาดหรือการพัฒนาวัสดุต่าง ๆ ทำให้เกิดประโยชน์ในการรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และช่วยลดต้นทุนของประเทศต่อไป