xs
xsm
sm
md
lg

เตือน "บุหรี่ไฟฟ้า" แบตเตอรี่สูง ยิ่งดันสารพิษเข้าร่างอื้อ เสี่ยงระเบิดง่าย ชี้เป็น Toxic Friend แถมไอน้ำเจอสารอนุมูลอิสระ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อาจารย์เภสัชฯ ม.มาสทริชท์ สิงคโปร์ ชี้ "บุหรี่ไฟฟ้า" เป็น Toxic Friend ออกแบบให้ดูดี แต่เป็นพิษร่างกาย ห่วงแบตเตอรี่แรงยิ่งให้ความร้อนสูง ส่งนิโคติน-สารพิษเข้าร่างกายมากขึ้น ย้ำไอบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ไอน้ำ แต่มีสารพิษเพียบ รวมถึงสารอนุมูลอิสระทำให้เกิดการอักเสบและก่อโรค

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการ "บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ" ครั้งที่ 12 เรื่อง "คนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า"

ดร.นวน ปิง (Dr.Nuan Ping) Pharmaceutical Division Health Sciences Authority มหาวิทยาลัยมาสทริชท์ สิงคโปร์ กล่าวในเวทีช่วง "E-Cigarette and Beyond" ว่า บุหรี่ไฟฟ้าที่มักเจอในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการพัฒนารูปแบบเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กและเยาวชน แม้แต่รูปลักษณ์ของลิปสติกก็มี ทำให้รู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่าย แต่จริงๆ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าก็คือบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอยู่ดี ยิ่งปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามีพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สูบได้รวดเร็วขึ้นและได้รับสารอันตรายมากขึ้น เช่น การใช้เซนเซอร์ตรวจจับการดูดไอ ทำให้ไม่ต้องเปิดเสียเวลากดเปิดสวิตช์ หรือตัวแบตเตอรี่ที่ยิ่งมีประสิทธิภาพก็ยิ่งให้ความร้อนกับน้ำยาได้เยอะและรวดเร็ว ทำให้ปริมาณสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากขึ้น ทั้งนี้ ไม่ได้ขึ้นกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เติมเข้าไปมีความเข้มข้นเท่าไร เพราะน้ำยาแต่ละตัวก็คล้ายกัน แต่อยู่ที่เทคโนโลยีของเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าก็เหมือนกับเครื่องยนต์ ที่แรงม้าสูงก็เร่งความเร็วได้สูง บุหรี่ไฟฟ้าก็เช่นกัน ยิ่งกำลังสูง วัตต์สูงๆ ก็ยิ่งสามารถส่งสารนิโคตินและสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้มากในเวลาสั้น


ดร.นวน ปิง กล่าวว่า สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พบว่า ไม่ได้ใส่แค่นิโคติน แต่มีสารอื่นๆ อีกเยอะ เช่น กลีเซอรีน Propylene Glycol และสารปรุงแต่งกลิ่นรส ซึ่งเป็นสารที่ใส่อยู่ในอาหารในระบบอุตสาหกรรม ซึ่งสารเหล่านี้วิจัยมาสำหรับการรับประทานเป็นระดับฟู้ดเกรดหรือทาผิว แต่ไม่ได้แนะนำให้สูดเข้าปอด ไม่ใช่สิ่งที่ควรสูบ และยังมีสารอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุในฉลากตามกฎหมาย ดังนั้น ที่มีการบอกว่าสูบแล้วพ่นไอออกมาเป็นเพียงแค่ไอน้ำปกติธรรมดาจึงไม่ใช่เรื่องจริง เพราะมีสารพิษออกมาด้วย ทั้งนิโคติน โลหะหนัก นิกเกิล รวมถึงอนุมูลอิสระที่ปล่อยออกมาด้วย ซึ่งอนุมูลอิสระก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและโรคภัยไข้เจ็บมากมาย ที่น่าห่วงคือควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง เพราะคนที่อยู่รอบข้างไม่ได้รู้สึกว่าเหม็นเหมือนบุหรี่มวน จึงไม่ได้ลุกหนีทำให้นั่งดมและรับควันตามคนสูบไปด้วย

"นิโคตินมีทั้งที่ได้จากต้นใบยาสูบ ซึ่งโครงสร้างเป็นเป็น S Form มากกว่า ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรารู้จักกันดี รู้จักวิธีทำงานว่าจะควบคุมอย่างไร แต่นิโคตินสังเคราะห์มีวิธีการสังเคราะห์มากกว่า 20 แบบ แต่ละแบบมีวิธีการแตกต่างกันออกไป ใช้สารตั้งต้นและสารผสมที่แตกต่างกัน มีทั้งที่รู้และไม่รู้จำนวนมากที่อาจเป็นอันตราย ดังนั้น แม้โครงสร้างของนิโคตินสังเคราะห์แต่ละแบบจะมีกิ่งก้านเล็กแตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าเป็นนิโคตินสังเคราะห์เช่นกัน แต่กิ่งโครงสร้างที่แตกต่างกันเหล่านี้ กลับส่งผลแตกต่างกัน ทำให้อันตรายแตกต่างกัน และคาดเดาได้ยากถึงการเกิดพิษต่อร่างกาย" ดร.นวน ปิง กล่าว


ดร.นวน ปิง กล่าวอีกว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังมีอันตรายจากสารที่ให้ความรู้สึกเย็นวาบในการสูบด้วย ซึ่งสารให้ความเย็นเหล่านี้มีการใส่ในเครื่องสำอาง ครีม ลิปสติกที่ใช้ทาผิว ซึ่งผ่านการทดสอบในการใช้ทาแล้วว่าปลอดภัย แต่ไม่ได้มีการทดสอบการใช้ในการสูบเข้าปอด การเอามาใส่ถือเป็นการโกงผู้บริโภคและก่อให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชันในการแจ้งเตือนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อถึงเวลา เป็นเหมือนการแจ้งเตือนให้ทำร้ายร่างกายตัวเองเรื่อยๆ ที่น่าห่วงคืออุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะแบตเตอรี่กลายเป็นขยะสิ่งแวดล้อม ยิ่งแบตเตอรี่ที่มีกำลังมากอาจเกิดการระเบิดได้ ไม่ใช่แค่การชาร์จและระหว่างการใช้ก็เกิดเหตุได้ จึงไม่ใช่แค่การแก้ด้วยการย้ายไปชาร์จที่ไกลแต่ไม่สูบเลยจะดีที่สุด โดยขอย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่พยายามออกแบบให้ดูเป็นเพื่อนที่เข้าถึงง่ายไม่ได้ปลอดภัย แต่จริงๆ ต้องเรียกว่า "เพื่อนที่เป็นพิษ (Toxic Friend)"


กำลังโหลดความคิดเห็น