“หมอธีระวัฒน์” ห่วงกระแสตื่น "โควิด" ย้ำเหมือนหวัดที่ใครๆ ก็เป็นได้ บางคนติดแต่ไม่มีอาการ ส่วนมีอาการตรวจ ATK ไม่ขึ้น ให้รีบกินฟ้าทะลายโจร เหตุผลตรวจไม่ไว 100% ชี้ยิ่งรักษาเร็วยิ่งลดภาวะลองโควิด เผย 30% คนเป็นโควิดจะได้รับผลกระทบจากลองโควิด
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้ ว่า ขณะนี้เราควรทำโควิด 19 ให้เป็นเรื่องปกติได้แล้ว เนื่องจากเราฉีดวัคซีนป้องกันไปแล้ว 3 เข็มก็เหลือเฟือ และถ้าติดตามธรรมชาติจะมีภูมิคุ้มกันคู่ที่ลดอาการหนักและการตายได้อย่างชัดเจน สิ่งสำคัญ คือ ตอนนี้กระแสตื่นโควิดมาอีกแล้ว ทั้งที่ควรต้องทำความเข้าใจว่า โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ก็เหมือนหวัดที่ใครๆ ก็เป็นได้ และบางครั้งเราเป็น เรายังไม่รู้ตัว เพราะไม่ได้ตรวจ หรือตรวจไม่เจอ เพราะผลการตรวจ ATK ขึ้นช้า ก็เข้าใจว่าไม่ติด ตรงนี้เป็นปัญหา หากเรารักษาเร็วก็จะมีประโยชน์ลดอาการลองโควิดได้
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า รายงานของประเทศไทย โดยอาจารย์ปารวี ชีวะอิสระกุล รามาธิบดี ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Scientific report เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ระบุว่าคนไทยในปัจจุบันอาจติดโดยไม่มีอาการมากกว่า 24% ก็จะคล้ายๆ หวัดตามฤดูกาล ที่บางคนเป็นหวัดแต่ไม่มีอาการมาก หรือไม่มีอาการแล้วไปแพร่เชื้อก็ได้ ซึ่งหากเราเริ่มครั่นเนื้อครั่นตัว แม้ไม่ไอ หรือแค่เจ็บคอ พอตรวจ ATK ไม่ขึ้นก็ให้กินยาฟ้าทะลายโจรไปเลย จากนั้นก็ค่อยมาตรวจใหม่ บางคนก็ไม่ขึ้น แต่บางคนขึ้น 2 ขีดก็กินยาฟ้าทะลายโจรตามสูตรกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดจนครบ 5 วัน
“การรักษาเร็วที่สุดเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ต้องรอให้ ATK ขึ้น 2 ขีด เพราะอาจขึ้นช้า แต่เราสามารถกินยาฟ้าทะลายโจรขนาดตามที่ สธ.ประกาศไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาเราใช้รักษากรณีไข้หวัดธรรมดาอยู่แล้ว เราไม่ได้กินทุกวัน กินเฉพาะมีอาการ ขอย้ำว่า ถ้าครั่นเนื้อครั่นตัวไม่สบาย ไม่ต้องรอ ATK 2 ขีด เพราะมันขึ้นช้า บางทีรอไป 3-4 วันมาขึ้นก็มี ซึ่งอาการจะหนัก แต่บางคนไม่ได้ไอ ไม่เจ็บตัวด้วย แค่ปวดตัว ท้องเสียนิดๆหน่อยๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวก็เริ่มด้วยฟ้าทะลายโจรได้เลย หากไม่ใช่โควิด 1-2 วันก็จะดีขึ้นแล้ว ระหว่างนั้นตรวจไปเรื่อยๆ หาก 2 ขีดก็กินจนครบ 5 วัน แต่หากเป็นโควิดแล้ว 2 วันไม่ดีขึ้นก็ต้องให้ยาโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิด” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
เมื่อถามว่าตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดแต่ไม่มีอาการเลย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า โควิดไม่มีอาการก็ได้ หรือมีอาการเล็กน้อยก็ได้ บางคนแค่เจ็บคอ บางคนแค่เป็นไข้วันเดียวหาย แต่ที่สำคัญต้องกินยาฟ้าทะลายโจรให้เร็ว ส่วนคนที่มีอาการแต่ตรวจไม่เจอ เพราะชุดตรวจ ATK ไม่ได้ไว 100% ก็ขอให้กินฟ้าทะลายโจรไปก่อน เพราะบางที 3-4 วันผลตรวจ ATK ค่อยมาขึ้นก็มี สิ่งที่เราห่วงคือ ลองโควิดอาจเกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีคนตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดแต่อาการน้อยมาก แค่เจ็บคอ 1 คืนก็หาย บางคนไม่มีอาการเลย ยังต้องห่วงเรื่องลองโควิดหรือไม่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า ต้องห่วงหมด ปัญหาคือ คนไม่มีอาการแต่อาจมีเชื้ออยู่ หรือมีอาการเล็กน้อย ก็ควรกินยาฟ้าทะลายโจร เพราะยิ่งรักษาเร็ว นอกจากจะช่วยให้หายได้เร็วแล้วยังมีแนวโน้มว่าทำให้ป้องกันอาการของลองโควิดไปได้ จะเร็วได้ขนาดนั้นและทำให้เป็นเรื่องปกติเหมือนนานาประเทศที่ทำไปแล้ว อย่างประเทศเวียดนาม ก็คือสามารถรับยาได้ที่ร้านยาที่มีเภสัชกร ซึ่งคอยให้คำแนะนำได้ ที่มีทั่วไป
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทั่วโลกต่างมีข้อมูลเรื่องลองโควิดว่า 30% ของคนที่เป็นโควิดก็อาจได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ประกอบด้วย รู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติ แม้ตรวจเส้นเลือดหัวใจก็ไม่เจออะไร มีอาการทางสมอง ทางจิตอารมณ์ มีอาการทางสมองเสื่อมปรากฎขึ้น หรือเคยมีภาวะสมองเสื่อมเก่าก็จะรุนแรงขึ้น อาการเหวี่ยง หดหู่ ซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งนอนไม่หลับ และยังมีอาการบ่งบอกภาวะอักเสบในร่างกาย ได้แก่ ผื่นผิวหนัง ผมร่วง ปวดเส้นเอ็น ปวดข้อ กระทั่งประจำเดือนมาผิดปกติ หรือไม่มา หรืออารมณ์ทางเพศด้อยลง อีกทั้ง ยังมีอาการทางเดินอาหาร ท้องผูก ท้องเสีย หรือมีอาการลำไส้แปรปรวน รวมไปถึงยังอาจเป็นเริม งูสวัดปะทุขึ้นมาได้ เพราะภูมิคุ้มกันเราลด
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนระยะเวลาของการเป็นลองโควิดนั้น มีทั้งระยะกลาง 3-4 เดือนหลังจากติดโควิดไปแล้ว และระยะลองโควิดคือ 4-5 เดือนขึ้นไป ซึ่งจุดแบ่งตรงนี้ไม่ชัดเจน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นผลตามต่อเนื่องจากการติดโควิด อย่างไรก็ตาม การรักษาเร็วมีแนวโน้มช่วยป้องกันภาวะลองโควิดได้ และประชาชนไม่ต้องตกใจ เพราะพิสูจน์แล้วเช่นกันว่า กินอาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ ลดเนื้อสัตว์บก กินปลา กุ้ง หอยปูปลา อาหารทะเล ปลาน้ำจืด ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ หากเป็นผู้สูงอายุ เดินหมื่นเก้า ตากแดดบ้าง งดของหวาน ลดแป้ง ก็จะช่วยได้ และไปเพิ่มพวกอาการกากใยแทน พวกนี้จะลดการอักเสบในร่างกายได้
“คนที่ไม่มีอาการเลย อาจเป็นไปได้ว่า ร่างกายต้นทุนสุขภาพพร้อมอยู่แล้ว เช่น มีระบบต่อต้านการติดเชื้อ การอักเสบพร้อมอยู่แล้ว และขณะนี้มีระบบต่อต้านการอักเสบ ซึ่งค้นพบแต่ยังไม่สามารถนำมาเป็นยาได้ โดยระบบตรงนั้น เป็นระบบละลายการอักเสบไม่กดภูมิคุ้มกัน เช่น การใช้สเตียรอยด์ลดการอักเสบอาจลดภูมิฯ แต่ระบบละลายการอักเสบ ซึ่งเป็นระบบในร่างกายของเรา มีรายงานเรื่องนี้ปี 2016-2017 ของสหรัฐ และขณะนี้มีบริษัทยาหลายแห่งกำลังพัฒนาเป็นยาอีก แต่ระบบละลายการอักเสบมีหมด แต่มากน้อยไม่เหมือนกัน” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในคนทั่วไป ขอแนะนำไม่ควรเกิน 3 เข็ม เพราะโควิดก็เหมือนไข้หวัดแล้ว อีกทั้ง รายงานวารสารทางการแพทย์ 2022 จนถึงปัจจุบัน พบว่าฉีดวัคซีนมากเกินไป ทำให้ระบบเซลล์ที่ป้องกันอาการหนัก ป้องกันการเสียชีวิตลดประสิทธิภาพลงได้ จริงๆ หากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง 608 ก็ไม่ควรฉีดวัคซีนกันมากกว่า 3 เข็ม เพราะโควิดก็ไม่ได้อันตราย เป็นโรคฉุกเฉินเหมือนอดีต อีกทั้ง องค์การอนามัยโลกก็ประกาศไม่ใช่โรคฉุกเฉินอีกแล้ว
นอกจากนี้ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ว่าทำโควิดให้เป็นเรื่องปกติได้ เราฉีดวัคซีนไปแล้วสามเข็มก็เหลือเฟือและถ้าติดตามธรรมชาติจะมีภูมิคู่ที่ลดอาการหนักและการตายได้อย่างชัดเจน
ถ้ายังไม่เคยติด หรือติดซ้ำซึ่งติดได้แน่ๆ เพราะวัคซีนขณะนี้ไม่ช่วยป้องกันการติด และเกิดติดขึ้นมา โดยมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวแม้ยังไม่ถึงกับเจ็บคอไอ
* การรักษาเร็วที่สุด (อาจไม่ต้องรอให้ขึ้นสองขีด เพราะอาจขึ้นช้า) ด้วยฟ้าทะลายโจรขนาดตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศไปก่อน ทั้งนี้ฟ้าทะลายโจรในเวลาที่ผ่านมานั้น เราใช้อยู่แล้วในกรณีของไข้หวัดเล็กไข้หวัดกลาง โดยไม่ใช่กินทุกวันกินเมื่อมีอาการแล้วโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีตับอักเสบ และถ้าสองวันไม่ได้ผลเริ่ม
* มอลนูพิราเวิย หรือ แพ๊กซ์โลวิด
* การรักษาเร็วนอกจากจะช่วยให้หายได้เร็วแล้วยังมีแนวโน้มว่าทำให้ป้องกันอาการของลองโควิดไปได้
* จะเร็วได้ขนาดนั้นและทำให้เป็นเรื่องปกติเหมือนนานาประเทศที่ทำไปแล้ว อย่างประเทศเวียดนาม ก็คือสามารถรับยาได้ที่ร้านยาที่มีเภสัชกร ซึ่งคอยให้คำแนะนำได้ ที่มีทั่วไป
* การเริ่มรักษาช้าเกินไป เพราะยังไม่ขึ้นสองขีด และ รอไป จนกระทั่งมีไข้ขึ้นเต็มที่และมีอาการทางปอด หรือ ในระยะหลังกลับไม่มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ กลับมีอาการทางสมองแทน คือพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง หลงทางฟั่นเฟือน จะทำให้รักษายากขึ้นมาก และต้องเข้าโรงพยาบาลและเป็นภาระกับระบบสาธารณสุข