สปสช. เผยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว 100,604 คน คิดเป็น 3.46% ขอ 7 กลุ่มเสี่ยงรีบฉีดด่วน "นครนายก" ฉีด 640 คน จาก 4.8 หมื่นคน
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ติดตามการจัดบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด 19 ที่ รพ.สต.บ้านเขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก พบว่า มีผู้สูงอายุและประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก ทั้งนี้ ได้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้วเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สปสช. ร่วมกับกรมควบคุมโรค และหน่วยบริการในระบบบัตรทองทั่วประเทศจัดบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 7 กลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. - 31 ส.ค. 2566 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด ซึ่งปีนี้เตรียมทั้งหมด 2.91 ล้านโดส ขณะนี้มีประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100,604 คน คิดเป็น 3.46%
“ช่วง 3 เดือนจากนี้ ก่อนจะหมดเขตบริการหรือก่อนที่วัคซีนจะหมด ขอให้กลุ่มเสี่ยงรีบมาฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่ ฉีดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและยังฉีดพร้อมกับวัคซีนโควิด 19 ได้ ที่แขนคนละข้าง ติดต่อขอฉีดได้ที่หน่วยบริการในระบบบัตรทองทุกแห่ง ทั้ง รพ.รัฐ รพ.สต. ศูนย์การแพทย์ชุมชน ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. และคลินิกเอกชนที่เข้าร่วม โดยพื้นที่ กทม. จองสิทธิฉีดวัคซีนล่วงหน้าผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปพลิเคชันเป๋าตังได้” ทพ.อรรถพร กล่าว
ด้าน นพ.สาธิต ทิมขำ ผอ.สปสช.เขต 4 กล่าวว่า ปีที่แล้วพื้นที่เขต 4 มีกลุ่มเป้าหมาย 3 แสนคน ฉีดวัคซีนได้ 2.8 แสนคน หรือคิดเป็น 91% ส่วนปีงบประมาณ 2566 มีกลุ่มเป้าหมาย 8.9 แสนคน ตั้งเป้าฉีดให้ได้ไม่น้อยกว่า 80% ของจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด แนวทางการบริหารวัคซีนของเขต 4 จะเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. - ส.ค. 2566 ส่วนของบุคคลทั่วไปที่ไม่ทันได้ฉีดในช่วงนี้ ยังสามารถฉีดรอบเก็บตกได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 ก.ย. 2566
ด้าน พญ.อรรัตน์ จันทร์เพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครนายก กล่าวว่า นครนายกมีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 48,520 คน จัดสรรตามพื้นที่แต่ละอำเภอตามสัดส่วน ดังนี้ อ.เมือง 4,300 โดส อ.ปากพลี 1,330 โดส อ.บ้านนา 3,020 โดส อ.องครักษ์ 3,400 โดส สำหรับการกระจายวัคซีนจะกระจายไปที่ รพ.สต. ทั้ง 56 แห่ง และ รพ.นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขตามสัดส่วนของกลุ่มเสี่ยง แบ่งเป็น 3 รอบ รอบแรก 15% รอบสอง 50% และรอบสาม 35% ซึ่งการให้บริการจะเป็นแบบ walk in ไม่มีการจองคิว แต่จะประชาสัมพันธ์และเชิญชวนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีน โดยวันที่ 23 พ.ค. มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 640 คน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน ก.ค.นี้
