สธ.เผยฉีดวัคซีนคู่ "ไข้หวัดใหญ่-โควิด" ไม่มีรายงานผู้รับผลกระทบ เร่งรวบรวมยอดฉีด แต่คาดอัตราฉีดเพิ่มมากขึ้น หลังคนตื่นตัวทั้ง 2 โรค ส่วนสถานการณ์โควิดพบป่วย 1,699 ราย ตาย 10 ราย
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการฉีดวัคซีนคู่ สู้หน้าฝน คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่และโควิด ซึ่งคิกออฟไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงก่อนเข้าฤดูฝน ซึ่งประเทศไทยจะพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น สธ.ได้รณรงค์ฉีดวัคซีนคู่ คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด 19 ที่กำหนดเป็นวัคซีนประจำปี ให้กับกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโรค โดยเฉพาะผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป พบว่า มีอัตราเข้ามารับวัคซีนมากขึ้น เพราะประชาชนตื่นตัวเรื่องไข้หวัดใหญ่และสายพันธุ์โควิดที่เปลี่ยนแปลง แต่กรมควบคุมโรคกำลังรวบรวมข้อมูลการฉีดอยู่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบหลังจากการรับวัคซีนทั้งสองชนิด
“ช่วงหลังการฉีดวัคซีนของไทยเริ่มชะลอตัว ไม่เหมือนในช่วงแรกๆ เพราะประชาชนก็คิดว่าตัวเองฉีดวัคซีนเยอะแล้ว แต่ยังขอย้ำว่าวัคซีนโควิดและไข้หวัดใหญ่ เราฉีดปีละ 1 เข็ม จึงอยากให้ประชาชนเข้ามารับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ส่วนเรื่องการเข้าถึงวัคซีน กรมควบคุมโรคได้จัดบริการให้เกิดความสะดวกกับประชาชน สามารถมารับวัคซีนได้ที่ รพ.อำเภอทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” นพ.ธเรศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด 19 ประเทศไทยรายสัปดาห์ ข้อมูลระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 6 พ.ค. 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาใน รพ. 1,699 ราย เฉลี่ยวันละ 242 ราย ผู้เสียชีวิต 10 ราย เฉลี่ยวันละ 1 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบสะสม 219 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจสะสม 113 ราย ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนโควิด 19 สะสม 144,951,341 โดส