xs
xsm
sm
md
lg

สปสช.ดึงเครือข่ายหลากหลายทางเพศ-ชาติพันธุ์ ร่วมขับเคลื่อนสิทธิบัตรทอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สปสช.ดึงเครือข่ายหลากหลายทางเพศ-ชาติพันธุ์ ร่วมขับเคลื่อนเข้าถึงสิทธิบัตรทอง ดันเป็นศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพ ให้ความรู้ คุ้มครองสิทธิสมาชิก ไม่ต้องพ่วงไปกับเครือข่ายอื่น

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สปสช. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายชาติพันธุ์ และความหลากหลายทางเพศ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการเข้าถึงสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพ และพัฒนาบทบาทการเป็นศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน หรือยกระดับเป็นหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน หรือหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้าน โดยมีตัวแทนเครือข่ายชาติพันธุ์และกลุ่มความหลากหลายทางเพศประมาณ 20 คนเข้าร่วมประชุม ส่วนมากจะเป็นแกนนำหรือเครือข่ายกลุ่มใหม่ๆ ที่พร้อมเข้ามาร่วมงานกับ สปสช. กลุ่มนี้รู้ถึงปัญหาของตัวเองและคิดว่าจะรอการทำงานของเครือข่ายอื่นๆ ไม่ได้แล้ว เราจึงชักชวนให้เข้ามาดูแลเรื่องสิทธิของเครือข่ายของตัวเอง

ด้าน สุมาลี โตกทอง ผู้ประสานงานโครงการข้ามเพศมีสุข กล่าวว่า พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวถึงบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน แต่ที่ผ่านมาเครือข่ายความหลากหลายทางเพศยังไม่ค่อยได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายภาคประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพ ส่วนมากจะพ่วงไปกับเครือข่ายสตรีต่างๆ แต่จริงๆ แล้วกลุ่มความหลากหลายทางเพศก็มีประเด็นเฉพาะและต้องการบริการที่แตกต่าง จึงเป็นโอกาสดีที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายกับ สปสช. ในครั้งนี้ การทำงานร่วมกับ สปสช. จะเป็นโอกาสดีที่จะได้พาเพื่อนๆ ในเครือข่ายมาเรียนรู้กลไกการเข้าถึงสิทธิในระบบบัตรทอง สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มข้ามเพศแก่คนที่ทำงานในระบบสุขภาพหรือแม้แต่ในองค์กร สปสช.เอง เช่น

การเกิดมามีสภาพจิตใจไม่สอดคล้องกับร่างกายหรือสอดคล้องกับความคาดหวังทางสังคม ก่อให้เกิดความเครียด ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า หรือ เรื่องคำนำหน้าชื่อ เวลาเข้ารับบริการที่ รพ.แล้วถูกเจ้าหน้าที่เรียกชื่อเป็นนาย แต่แต่งตัวเป็นหญิง ทำให้รู้สึกถูกจับจ้อง จนรู้สึกไม่อยากไปรับบริการ เป็นต้น ที่สำคัญคือหลายคนอยากเปลี่ยนแปลงร่างกายให้สอดคล้องกับความรู้สึกทางจิตใจ แต่เรื่องนี้ถูกตีให้เป็นเรื่องของความสวยงามหมด ทั้งที่จริงๆ แล้วมันเป็นความรู้สึกถึงตัวตนที่สามารถมีสภาพร่างกายที่ตรงกับจิตใจ

"แต่เนื่องจากสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพไม่คุ้มครองในส่วนนี้ ทำให้ต้องจ่ายเงินเองและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทำให้หลายคนเลือกไปรับบริการจากหมอกระเป๋าที่มีราคาถูกกว่า ทำให้บางคนเกิดความเสียหายกับร่างกาย ผลกระทบต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ” สุมาลี กล่าวและว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องสร้างความเข้าใจหรืออาจต้องปรับในเชิงระบบ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับกลุ่มข้ามเพศเลย ดังนั้น จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้เพื่อให้มีบริการเกี่ยวกับกลุ่มข้ามเพศเป็นสิทธิประโยชน์ของ สปสช. ในอนาคต

ด้าน นายชัยยุทธ วัยเหนิดลื้อ เครือข่ายชาติพันธุ์กะเลิง จ.สกลนคร กล่าวว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของกลุ่มชนเผ่าคือเรื่องสถานะทางทะเบียน ไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่รัฐจัดให้ รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับภาษาที่ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ ก็ต้องอาศัยเครือข่ายที่เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ประสานงานให้ ขณะเดียวกัน ในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ยังมีช่องว่าง เช่น ยังเข้าไม่ถึงงบจากกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) ทำให้ต้องอาศัย อสม. หรือ รพ.สต. ช่วย ดังนั้นต้องมีกลุ่มองค์กรที่สามารถเข้าถึงงบ กปท. ได้ การเข้ามาร่วมงานกับ สปสช. จึงเป็นโอกาสที่จะได้ประสานงาน สร้างความเข้าใจ และนำองค์ความรู้กลับไปสื่อสารกับสมาชิกในกลุ่มชนเผ่าต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น