xs
xsm
sm
md
lg

รพ.ขอนแก่นเงินติดลบ 343 ล.บาทจริง แต่ไม่มีตัดโอทีเหลือ 50 บ./ชม. แจงใช้ระเบียบคนละฉบับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองปลัด สธ. เผย รพ.ขอนแก่นการเงินติดลบจริง แต่ไม่มีตัดค่าโอทีเหลือ 50 บาท/ชม. แจงเป็นการใช้ระเบียบคนละฉบับ ฝ่ายบริการดูแลผู้ป่วยใช้ระเบียบ สธ. ส่วนงานประจำสำนักงานใช้ระเบียบ ก.คลัง

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงข่าว รพ.ศูนย์แห่งหนึ่งการเงินติดลบ 343 ล้านบาท ต้องลดโอทีพนักงานเหลือ 50 บาทต่อชั่วโมง ว่า นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ขอนแก่น ได้เข้าตรวจสอบ กรณีดังกล่าวที่ รพ.ขอนแก่นแล้ว พบว่า สถานะการเงินติดลบจริง โดยเกิดจากปัญหาการจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามแผนรายรับ ซึ่งได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บรายได้แล้ว ส่วนเรื่องลดโอทีเจ้าหน้าที่ไม่เป็นความจริง แต่เป็นการเบิกจ่ายค่าตอบแทนตามระเบียบคนละฉบับ โดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้บริการ หรือสนับสนุนบริการในด้านต่างๆ ในหน่วยบริการ หรือนอกหน่วยบริการ หรือต่างหน่วยบริการ ซึ่งพิจารณาตามความเหมาะสมจำเป็น จะเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับ สธ.

สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานให้บริการหรือสนับสนุนบริการในด้านต่างๆ แต่เป็นการปฏิบัติงานลักษณะงานประจำสำนักงาน หากมีความจำเป็นต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ จะไม่สามารถเบิกตามระเบียบ สธ.ได้ ต้องเบิกค่าตอบแทนตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. 2550 โดยวันทำการปกติเบิกชั่วโมงละ 50 บาท ไม่เกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน วันหยุดเบิกชั่วโมงละ 60 บาทไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่ง รพ.ขอนแก่นได้ทำหนังสือแจ้งเวียนให้ทุกฝ่าย/กลุ่มงานทราบและถือปฏิบัติให้ถูกต้องด้วยแล้ว

“จากการตรวจสอบ รพ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็น รพ.ศูนย์อีกแห่งในเขตสุขภาพที่ 7 พบว่าการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงการคลังและระเบียบกระทรวงสาธารณสุขเช่นกัน จึงไม่มี รพ.ศูนย์แห่งใดที่ประกาศลดค่าโอที แต่เป็นเพียงการใช้ระเบียบคนละฉบับเท่านั้น ยืนยันว่า สธ.ให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลากรทุกคน ทุกวิชาชีพ ไม่มีนโยบายให้ตัดลดโอทีมีแต่จะพัฒนาระบบค่าตอบแทนให้ได้รับอย่างเหมาะสม” นพ.ทวีศิลป์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น