บอร์ด สปสช. ไฟเขียวจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มเติมอีก 8.6 แสนโดส รวมของเดิม 4.4 ล้านโดส เป็น 5.26 ล้านโดส เพื่อขยายการฉีดกลุ่มเสี่ยง 608 พร้อมวัคซีนโควิดช่วงฤดูฝน ป้องกันอาการรุนแรง ด้าน สธ.ลดค่าบริการฉีดวัคซีนจาก 60 บาทเหลือ 20 บาท ช่วยประหยัดงบนำไปจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่ม
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบข้อเสนอการจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มเติมและการจัดสรรค่าบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 เนื่องจากที่ประชุมติดตามสถานการณ์โควิด 19 ของ สธ. มีคำแนะนำเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ได้รับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นอย่างน้อย 1 เข็ม พร้อมรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคราวเดียวกัน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค ลดภาวะแทรกซ้อนและเจ็บป่วยรุนแรง โดยมอบหมายให้ สปสช. ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โควิด 19 เริ่มระบาดอีกครั้ง และเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สธ. เห็นควรว่าต้องใช้สถานการณ์นี้เร่งรัดและโน้มน้าวประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นและวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคราวเดียวกัน
"ทางการแพทย์ระบุว่า สามารถฉีดพร้อมกันได้ ไม่มีเงื่อนไขของเวลา หากจะให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง 608 ตามเป้าหมาย สปสช.ต้องจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อให้บริการเพิ่มเติม การเพิ่มจำนวนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะทำให้กลุ่มเสี่ยงเข้าถึงได้มากขึ้น ส่วนวัคซีนโควิด 19 นั้นยังมีจำนวนที่เพียงพอ" นายอนุทินกล่าวและว่า นอกจากนี้เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง สธ.จากเดิมที่จะได้รับค่าบริการฉีดวัคซีน 60 บาทต่อครั้ง ได้ลดค่าบริการฉีดวัคซีนเหลือ 20 บาทต่อครั้ง โดยเงินส่วนต่างจากการลดค่าฉีดวัคซีน สปสช.จะนำไปจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มเติมให้กับกลุ่มเสี่ยงตามมติบอร์ด ซึ่งเป็นการประหยัด และลดภาระงบประมาณของประเทศ
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2566 สปสช.จัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4.4 ล้านโดส ให้บริการประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้นตามคำแนะนำของ สธ. ดังนั้น สปสช.จึงพิจารณาขยายกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ นำมาสู่การปรับแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยเพิ่มการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติมอีก 8.6 แสนโดส วงเงินไม่เกิน 88 ล้านบาท พร้อมข้อเสนอการใช้งบประมาณค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในส่วนงบเหมาจ่าย 105.2 ล้านบาท เพื่อจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มเติมตามจำนวนดังกล่าว และให้จ่ายเป็นค่าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับประชาชนในอัตราค่าบริการ 20 บาท/ครั้ง และนำเสนอต่อบอร์ด สปสช. พิจารณาซึ่งได้มีมติเห็นชอบในวันนี้
“ขณะนี้กลุ่มเสี่ยง 608 มีความต้องการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมกับวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นมากขึ้น ทำให้ต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม สาเหตุมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ทำให้เกิดการรับรู้และตื่นตัวมากขึ้น” เลขาธิการ สปสช. กล่าว