สธ.เผยวิจัย "ฝังเข็ม" ร่วมนวด "ทุยหนา" รักษาผู้ป่วยโรคคอกระดูกเสื่อม ช่วยลดระดับปวด องศาคอเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นทุกทิศทาง เป็นอีกทางเลือกรักษาควบคู่กายภาพบำบัดและปรับพฤติกรรม
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ประธานคณะกรรมการ MIU (MOPH Intelligence Unit) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า โรคกระดูกคอเสื่อม พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ จากการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกและข้อต่อบริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอ และยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการก้มเล่นสมาร์ทโฟน นั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ร่วมกับการใช้ท่าทางไม่เหมาะสม ทำให้กระดูกสันหลังและคอโค้งงอผิดรูป หมอนรองกระดูกและข้อต่อกระดูกคอค่อยๆ เสื่อม ส่งผลให้การเคลื่อนไหวผิดปกติ มีอาการปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก และอาจปวดร้าวลงแขน มือและปลายนิ้วมือ
ทั้งนี้ มีงานวิจัยของคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.พะเยา ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการสาธารณสุข เป็นเรื่องการใช้ศาสตร์การแพทย์แผนจีน โดยใช้การฝังเข็มร่วมกับการนวดทุยหนา รักษาผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมในกลุ่มตัวอย่าง 674 ราย ด้วยการนวดทุยหนาโดยวิธีกด คลึง ถู บีบ ดัด หรือกลิ้ง ที่บริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ สะบักและจุดปวด รวมถึงตำแหน่งจุดฝังเข็มที่สำคัญ จากนั้นฝังเข็มที่จุดฝังเข็มบริเวณต้นคอระหว่างกระดูกคอข้อที่ 2-7 (C2-C7) จุดปวด จุดบนเส้นลมปราณ และเสริมจุดฝังเข็มตามอาการ พบว่า ผู้ป่วยมีระดับความปวดลดลง องศาการเคลื่อนไหวของคอเพิ่มขึ้นทุกทิศทาง มีคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้น ผลการตรวจค่าบ่งชี้การไหลเวียนเลือดทางห้องปฏิบัติการดีขึ้น เมื่อเทียบกับก่อนการรักษา
"การรักษาด้วยการฝังเข็มร่วมกับนวดทุยหนา เป็นการใช้หลักธรรมชาติบำบัดและศาสตร์การแพทย์แผนจีน เน้นปรับสมดุลร่างกาย มีความปลอดภัย ไม่พบผลข้างเคียงอันตรายทั้งในระยะสั้นและยาว อาจพบเพียงรอยช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบจากการนวด หรืออ่อนเพลียได้บางราย หายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ ใช้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกรักษา และนำไปพัฒนาวิธีรักษาโรคกระดูกคอเสื่อมที่มีความปลอดภัยได้ โดยงานวิจัยมีข้อแนะนำติดตามผลการรักษาทุก 3 เดือน เพื่อศึกษาระยะเวลาอาการกำเริบของโรค ควบคู่กับกายภาพบำบัดและปรับพฤติกรรม เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้ดียิ่งขึ้น" นพ.รุ่งเรืองกล่าว