เครือข่ายโอทอปตบเท้ายื่นหนังสือ "อนุทิน" จี้แก้ พ.ร.บ.อาหาร ยกเลิกระเบียบรางวัลนำจับ 40% ชี้ทำให้เกิดไล่ล่า เผยรายย่อยถูกปรับสูงถึง 8 หมื่นบาท ทั้งที่ผิดพลาดเรื่องฉลากเล็กน้อย ร้องให้มีการตักเตือน 2 ครั้ง นำเข้าอบรม หากยังผิดถึงค่อยปรับ ค่าปรับตามระดับขนาดธุรกิจ
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานเครือข่ายโอทอปเทรดเดอร์ประเทศไทย นำทีมประธานโอทอปเทรดเดอร์ 25 จังหวัดทั่วประเทศ เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อยื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. ขอให้แก้ไข พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 ที่มีการให้รางวัลนำจับกับเจ้าหน้าที่ อย. จนนำไปสู่การจับปรับผู้ประกอบการโอทอป เพียงเพราะติดฉลากไม่ถูกต้องถึง 8 หมื่นบาท โดยไม่มีการตักเตือน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการโอทอป โดยมี นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษก สธ.รับเรื่อง
นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า จากกรณีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครปฐม มีหนังสือถึงผู้ประกอบการในการเปรียบเทียบปรับกรณีฝ่าผืน พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 6(10) ฐานฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับฉลาก โดยเปรียบเทียบปรับ 8 หมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากและไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายย่อยที่ตั้งใจทำมาหากิน แต่มีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย โดยไม่ได้ตักเตือน ดังนั้น จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมและเรียกร้อง ดังนี้ 1.ให้มีการว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้าข่ายมีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศฯ ฉลาก โดยให้ตักเตือนอย่างน้อย 2 ครั้ง และอบรมแนวทางวิธีการดำเนินการที่ถูกต้อง
2.เมื่อตักเตือนและอบรมแล้ว ยังมีการฝ่าฝืนและไม่พัฒนาปรับปรุงให้ถูกต้องตามระเบียบ จึงจะสามารถดำเนินการปรับได้ตามกฎหมาย 3.ระเบียบการปรับให้ยกเลิกการให้รางวัลนำจับ 40% ต่อผู้ที่ชี้เป้าสินค้า เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและจับกุม ซึ่งจะทำให้เกิดการจัดตั้งหน่วยไล่ล่า เพื่อต้องการส่วนแบ่งจากเงินรางวัลนำจับ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั่วประเทศจำนวนมากที่ไม่มีความรู้และเข้าใจ รวมถึงไม่ได้รับการอบรมจากภาครัฐโดยทั่วถึง ถ้ารัฐลดแรงจูงใจโดยตั้งรางวัลนำจับและให้ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่โดยปกติ ไม่มุ่งเน้นที่เงินรางวัลนำจับ จะทำให้การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการดีกว่าการไล่ล่า และเปรียบเทียบปรับที่สร้างความคับแค้นใจ เมื่อเปรียบเทียบกับกัญชาและกระท่อม ตามนโยบายของ รมว.สธ.
4.ลดค่าปรับลงมาให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ประกอบการ คือ 1) กลุ่มผู้ประกอบการที่ภาครัฐสนับสนุน เช่น โอทอป วิสาหกิจชุมชน SME ที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ เพราะเป็นหน้าที่รัฐที่ต้องเร่งรัดให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้ประกอบการทั้งหมด และ 2) กลุ่มผู้ประกอบการทั่วไปที่อยู่นอกภาครัฐแบ่งเป็นระดับใหญ่ กลาง เล็ก ต้องวางมาตรการที่เหมาะสม 5.ค่าปรับผู้กระทำผิดให้นำมาจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องฉลากที่ถูกต้อง
“สรุปคือ รางวัลนำจับ 40% ขอให้ยกเลิก เพราะเป็นแรงจูงใจให้คนไปประกอบอาชีพไล่ล่าผู้ประกอบการรายย่อยที่ยังไม่มีความรู้ตรงนี้ กลายเป็นเหยื่อจำนวนมาก จึงขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขตรงนี้ และส่วนตัวเชื่อมั่นท่านอนุทิน เห็นขึ้นป้ายว่า พูดแล้วทำ” นายวัชรพงศ์ กล่าว
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า สธ.เข้าใจปัญหาดังกล่าว และพร้อมรับไปพิจารณาเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวมีมานานแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาสินค้าเพื่อผู้บริโภคใหัเกิดความปลอดภัย