xs
xsm
sm
md
lg

เตือนภัย "ยาอี" รูปแบบใหม่ บดผงผสมซองคอลลาเจน-กาแฟ ขายในโซเชียล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เตือนภัย "ยาอี" บดผงผสมลงซองคอลลาเจน-ซองกาแฟ ทำเสพไม่รู้ตัว พบขายในโซเชียลมีเดีย ย้ำทำตื่นตัว จากนั้นทำใฟ้ซึมเศร้า มีแนวโน้มฆ่าตัวตายได้ ยิ่งใช้ร่วมสุรา-ยาวพติดอื่น ยิ่งอันตรายถึงตาย

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยาอี ยาเลิฟ เอ็คซ์ตาซี (Ecstasy) เป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรงตัวเดียวกัน อาจอันตรายถึงตายได้ มีลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน ด้านหนึ่งนูนหรือเรียบ หรือมีขีดแบ่งครึ่ง อีกด้านหนึ่งมีสัญลักษณ์บนเม็ดยาเป็นรูปต่างๆ เช่น ค้างคาว นก ดวงอาทิตย์ เป็นต้น ยาอีมีฤทธิ์หลอนประสาทและกระตุ้นประสาท เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายจะออกฤทธิ์ภายในเวลา 30 - 45 นาที และฤทธิ์ของยาจะอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทในระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นจะหลอนประสาทอย่างรุนแรง

"ผู้เสพจะรู้สึกร้อน เหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง การได้ยินเสียง และการมองเห็นแสงสีต่าง ๆ ผิดไปจากความเป็นจริงเคลิบเคลิ้ม รู้สึกตื่นตัวตลอดเวลาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ปัจจุบันมีการลักลอบนำยาอีบดเป็นผงบรรจุลงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ซองคอลลาเจน ซองกาแฟ ซองเครื่องดื่มเกลือแร่ โดยพบว่ามีการวางขายใน Social Media ที่กำลังฮิตในกลุ่มวัยรุ่น" นพ.มานัสกล่าว

นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวว่า ยาอีที่ถูกลักลอบบรรจุลงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ววางขายใน Social Media ทำให้ตรวจสอบได้ยาก เมื่อเสพยาอีเข้าไปจะทำลายระบบประสาท ทำให้เซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่หลั่งสารซีโรโทนิน ซึ่งควบคุมอารมณ์ทำงานผิดปกติ โดยจะหลั่งสารนี้ออกมามากกว่าปกติทำให้สดชื่น อารมณ์ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารดังกล่าวจะลดน้อยลง ทำให้ผู้เสพเข้าสู่สภาวะอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ เกิดอาการซึมเศร้า และอาจกลายเป็นโรคจิตประเภทซึมเศร้า มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ และยังทำให้การนอนหลับผิดปกติ เวลาการนอนลดลง หลับไม่สนิท อ่อนเพลียขาดสมาธิ ในการเรียนและทำงาน

"บางรายนิยมเสพพร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาชนิดอื่นร่วมด้วย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ขอให้ช่วยกันสอดส่องและแจ้งเบาะแส เพื่อลดการแพร่กระจายของยาอีในรูปแบบซองคอลลาเจน และซองกาแฟ หากคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยงและพบสิ่งต้องสงสัย ควรพูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช้ความรุนแรง บอกกล่าวถึงผลเสียต่อสุขภาพ อันตรายที่จะตามมา และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้าบำบัดที่ สบยช. รพ.ธัญญารักษ์ 6 แห่ง" นพ.สรายุทธ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น