xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปัจจัยเสี่ยงทำหนุ่มๆ ป่วย "มะเร็งช่องปาก" แนะจุดตรวจคัดกรองหาความผิดปกติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หมอเผย “มะเร็งช่องปาก” พบบ่อยเป็นอันดับ 6 ในผู้ชาย เจอที่ตำแหน่งลิ้นมากสุด ย้ำสูบบุหรี่ ยาเส้น ดื่มเหล้า หมากพลู แสงแดดส่งผลทั้งสิ้น แนะจุดตรวจช่องปากหาความผิดปกติ

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งช่องปากพบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะเพศชาย เป็นอันดับที่ 6 แต่ละปีพบผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ย 3,840 คนต่อปี หรือวันละ 11 คน ตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุดคือ ลิ้น ตามด้วยใต้ลิ้นและบริเวณเหงือก อาการมีได้หลายอาการขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น ได้แก่ เป็นแผลเรื้อรังในช่องปาก ซึ่งไม่หายภายใน 2-3 สัปดาห์, เป็นก้อนนูนหรือฝ้าขาวหรือแดงในช่องปาก, ฟันหลุด ฟันโยก, ปวดในช่องปากหรือปวดหู, เคี้ยวหรือกลืนลำบาก และก้อนที่คอ
นพ.เอกภพ แสงอริยวนิช แพทย์เฉพาะทางสาขาโสต ศอ นาสิก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สาเหตุการเกิดมะเร็งช่องปากที่สำคัญคือ สูบบุหรี่ ยาสูบ ยาเส้น, การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเคี้ยวหมากพลู นอกจากนี้ สาเหตุอื่นที่พบได้ เช่น เป็นแผลเรื้อรังในช่องปาก, ใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดี, สุขภาพช่องปากไม่ดีหรือมีฟันผุมาก, มีฟันที่แหลมคม, ได้รับแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นประจำ (เสี่ยงต่อมะเร็งริมฝีปาก) การตรวจวินิจฉัยจะตัดชิ้นเนื้อรอยโรคที่สงสัยเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา หลังรับการวินิจฉัยแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อประเมินระยะของโรคและวางแผนการรักษาต่อไป

การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรค สภาพร่างกาย โรคประจำตัว โดยพิจารณาการผ่าตัดเป็นหลัก และพิจาณาให้รังสีรักษาในผู้ป่วยบางราย สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้จะรักษาด้วยวิธีรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด ให้ผลการรักษาที่ใกล้เคียงกับการผ่าตัด ส่วนวิธีการป้องกันได้แก่ งดสูบบุหรี่หรือสูดดมควันบุหรี่, งดการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ไม่เคี้ยวหมาก, ใส่ฟันปลอมที่พอดี และการตรวจเช็คสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน เนื่องจากช่องปากเป็นตำแหน่งที่สามารถมองเห็นไม่ยาก ประชาชนสามารถตรวจหารอยโรค แผล หรือก้อนในช่องปากด้วยตนเองได้

"หลังแปรงฟันให้ส่องกระจกตรวจ 1.ริมฝีปากด้านนอก เยื่อบุริมฝีปากด้านใน 2.กระพุ้งแก้ม และเหงือก 3.ลิ้น ใต้ลิ้น และพื้นช่องปาก และ 4.เพดานปาก หากมีอาการผิดปกติ หรือสงสัยว่ามีความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง" นพ.เอกภาพกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น