xs
xsm
sm
md
lg

วัคซีน "ไข้หวัดใหญ่" ไม่พอกลุ่มเสี่ยง จี้จัดหาเพิ่ม เผย 10 จว.อัตราป่วยสูง พบหน้าแล้งยังป่วยสูง 10%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์ห่วง "ไข้หวัดใหญ่" จ่อหวนระบาด คนติดเชื้ออาการแย่ลง เหตุ 3 ปีติดเชื้อน้อย จนไม่มีภูมิ เชื้อกลายพันธุ์มาก พ่วงกลับมาใช้ชีวิตปกติหลัง "โควิด" คลี่คลาย พบหน้าแล้งยังเจอแล้ว 10% หวั่นหน้าฝนยิ่งพุ่ง ขณะที่วัคซีนยังไม่พอกลุ่มเสี่ยง จี้จัดหาเพิ่ม กรมควบคุมโรคแจงหาเพิ่มขึ้น 40% เผย 10 จว.อัตราป่วยสูงสุด

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวในงานเสวนา “ไข้หวัดใหญ่หายไปไหนในยุคโควิด 19 และควรดูแลตัวเองอย่างไร” เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนให้ความใส่ใจเรื่องโควิด มีการป้องกันตัวที่ดี เช่น สวมหน้ากากอนามัย ระวังเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น ทำให้ป้องกันเชื้อโรคทางเดินหายใจต่างๆ ได้เกือบหมด รวมถึงไข้หวัดใหญ่ แต่ป้จจุบันกลับมาใช้ชีวิตประจำวันทำกิจกรรมตามปกติ คาดว่าโรคไข้หวัดใหญ่ในไทยน่าจะกลับมาแพร่ระบาดอย่างแน่นอน ที่ห่วงคือ 3-4 ปี ที่ผ่านมา คนไม่ค่อยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกัน เชื้อไข้หวัดใหญ่มีการกลายพันธุ์ไปอย่างมาก ถ้าติดเชื้อขึ้นอาการแย่ลงกว่าเก่า การป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดคือฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน


รศ.(พิเศษ) นพ.ทวีกล่าวว่า สำหรับไทยไข้หวัดใหญ่จะแพร่ระบาดในฤดูฝน พ ค.- มิ.ย. มีการบ่มเชื้อโรคมากที่สุด เพราะเป็นช่วงเปิดเทอม เด็กออกไปทำกิจกรรมใกล้ชิด กลับมาเป็นพาหะสู่ครอบครัว ติดผู้สูงอายุในบ้าน ขณะนี้ พบว่า ผู้ป่วยที่มีอาการหวัดเข้ารักษาที่ รพ. 10% เป็นไข้หวัดใหญ่ ทั้งที่เป็นช่วงหน้าแล้ง ฉะนั้น 2 เดือนข้างหน้าที่จะเป็นหน้าฝนและเปิดเทอม ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จะเพิ่มขึ้นกว่านี้แน่นอน ซึ่งแต่ละปีรัฐจะมีการเตรียมวัคซีน 2 แบบ คือ 1.รัฐจัดหาให้ฉีดฟรี 6 ล้านโดส สำหรับกลุ่มเสี่ยง กลุ่มประกันสังคม บุคลากรทางการแพทย์ และ 2.เอกชนจัดซื้อเอง 3 ล้านโดส

"รวมแล้วคนไทยมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละ 9 ล้านคน คิดเป็น 12-14% ของประชากร ซึ่งปี 2565 ไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว 13 ล้านคน คิดเป็น 19% ของประชากร วัคซีนจึงยังไม่เพียงพอ ผู้เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการมากขึ้น โดย 2 กลุ่มหลักที่ควรสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน คือ เด็กที่ติดเชื้อมาก เป็นแหล่งแพร่กระจาย และผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว เพื่อป้องกันอันตรายถึงชีวิต" รศ.(พิเศษ) นพ.ทวีกล่าว


นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2551 คนไทยเข้าถึงวัคซีนไข้หวัดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยรัฐจัดให้กลุ่มเสี่ยงฉีดฟรี ส่วนประชาชนทั่วไป สปสช.จัดหาวัคซีน ด้านกรมฯ จัดให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ทำงานกับสัตว์ปีกเพื่อป้องกันโอกาสไปเจอกับไข้หวัดนกในคน และกลุ่มทำงานในเรือนจำ โดยปี 2566 จัดหาเพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อน และจะขยายเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป จะมีการคิกออฟฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ตั้งแต่ 1 พ.ค.2566 เป็นต้นไป

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 เม.ย.2566 เป็นต้นไป เปิดให้จองฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เมื่อเข้าไปจะสามารถรู้ได้ว่าบริเวณใกล้เคียงที่อยู่นั้นมีที่ไหนให้บริการฉีดวัคซีนฟรี ประชาชนก็เลือกจองคิวได้หากสถานบริการเปิดระบบไว้ ใช้ได้ทั้ง กทม.และต่างจังหวัด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลกรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 11 มี.ค. 2566 มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 27,258 ราย อัตราป่วย 41.19 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 1 ราย ใน จ.สงขลา อัตราป่วยตาย 0.005 เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูง 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.แพร่ 198.62 ต่อประชากรแสนคน 2.พัทลุง 168.71 ต่อประชากรแสนคน 3.อุบลราชธานี 137.42 ต่อประชากรแสนคน 4.พะเยา 120.46 ต่อประชากรแสนคน 5.เชียงใหม่ 115.72 ต่อประชากรแสนคน 6.ภูเก็ต 110.70 ต่อประชากรแสนคน 7. กทม. 84.22 ต่อประชากรแสนคน 8.มุกดาหาร 83.80 ต่อประชากรแสนคน 9.น่าน 82.31 ต่อประชากรแสนคน และ10.นครศรีธรรมราช 78.84 ต่อประชากรแสนคน


กำลังโหลดความคิดเห็น