สธ.สั่งเข้ม 3 มาตรการ รับมือลดผลกระทบฝุ่น PM 2.5 เน้น 17 จังหวัดภาคเหนือ ส่วนเชียงรายที่ค่าฝุ่นพุ่งสูง ออกแนวทางปฏิบัติงาน ปรับระบบบริการลดการเดินทาง ส่งยาทางไปรษณีย์ ใช้เทเลเมดิซีน ทำห้องสะอาดปลอดฝุ่น สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันประชาชน
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่ในไทย ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่งได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 17 จังหวัด และพื้นที่ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 6 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ให้พิจารณาเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ พร้อมดำเนินงานตามแนวทาง “3 มาตรการ 10 กิจกรรมสำคัญ” ได้แก่ 1.มาตรการลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ คือ เฝ้าระวังสถานการณ์แจ้งเตือนความเสี่ยงต่อสุขภาพ , เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ , ยกระดับการสื่อสารเชิงรุก และสร้างความรอบรู้ความเข้มแข็งของชุมชน 2.มาตรการจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลแก่กลุ่มเสี่ยง, เปิดคลินิกมลพิษ/จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น, จัดระบบปฏิบัติการเชิงรุก และ 3.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยมีระบบบัญชาการเหตุการณ์เมื่อเข้าสู่ระยะวิกฤต, ส่งเสริมและขับเคลื่อนกฎหมาย พ.ร.บ.การสาธารณสุข และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมองค์กรลดมลพิษ
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับ จ.เชียงราย ซึ่งขณะนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานและมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง สสจ.เชียงรายได้ออกประกาศแนวทางปฏิบัติงานในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตฝุ่น PM 2.5 โดยให้สถานบริการในสังกัดปรับระบบบริการตามบริบทพื้นที่ เช่น เลื่อนนัดผู้ป่วยตามความเหมาะสม จัดส่งยาทางไปรษณีย์ เพื่อลดการเดินทาง รักษาผ่านระบบ Telemedicine จัดเตรียมสถานที่เป็นห้องสะอาด เพื่อเป็น Safety zone พื้นที่ปลอดฝุ่นสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้มารับบริการ, สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันแก่บุคลากรในการปฏิบัติงานและผู้มารับบริการ, จัดระบบการทำงานที่บ้าน และประชุมสื่อสารผ่านออนไลน์ กำชับเจ้าหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้อมูลเฝ้าระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 19 มี.ค. 2566 พบผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ 1,730,976 ราย สัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 228,870 ราย กลุ่มโรคที่พบสูงสุด ได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองเป็นพิเศษ ลดระยะเวลาหรืองดการออกนอกอาคารโดยไม่จำเป็น หากออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น, งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจ, อยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากทำห้องปลอดฝุ่นได้ ให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่น, สังเกตอาการเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้รีบไปพบแพทย์