คลินิกเวชกรรมในระบบบัตรทอง ขอ สปสช.พิจารณาปรับราคายาที่จ่ายให้หน่วยบริการ หลังยังใช้ราคากลางเดิม แต่ อภ.และบริษัทเอกชนขึ้นค่ายา 10-30% เผยเข้าระบบช่วยชาวบ้านรู้จัก ไว้ใจคลินิก มีรายได้เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นพ.ปราการ ถมยางกูร แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว คลินิกเวชกรรมปราการ กล่าวว่า คลินิกเวชกรรมปราการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายหน่วยบริการของ สปสช. เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน สมัครเป็นหน่วยปฐมภูมิเต็มรูปแบบ ได้ช่วยดูแลคนในชุมชนเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ประมาณ 7,000 คน ทั้งด้านการรักษาพยาบาล และส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เช่น ฉีดวัคซีนต่างๆ ดูแลหญิงตั้งครรภ์ ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังมีการออกเยี่ยมบ้าน เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยที่ต้องเปลี่ยนสายอาหารหรือสายปัสสาวะ ส่วนผู้ป่วยส่งต่อมี รพ.กลางรับส่งต่อระดับทุติยภูมิ และทำงานร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 20 ขณะที่ สปสช. ก็มีการสนับสนุนหลายเรื่อง ทั้งด้านค่าใช้จ่าย เรื่องยา เป็นต้น
“การร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพฯ มีข้อดีตรงที่ทำให้มีโอกาสได้ดูแลประชาชน ทำให้ประชาชนได้รู้จักคลินิกมากขึ้น เกิดความมั่นใจเรามากขึ้น แต่มีข้อเสนอแนะไปยัง สปสช. ในการปรับปรุงเรื่องราคาค่ายาที่จ่ายให้กับหน่วยบริการ เพราะยาบางตัว สปสช. ใช้ราคากลางเดิม ซึ่งปัจจุบันองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีการปรับราคาขึ้น" นพ.ปราการกล่าว
นพ.ปราการกล่าวว่า ปีนี้ค่ายาของบริษัทเอกชนขึ้นทุกแห่งประมาณ 10-30% อยากให้ สปสช. พิจารณาปรับราคากลางยาเพิ่มขึ้น แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าดี และอยากชวนคลินิกที่ให้บริการผู้ป่วยในชุมชนอยู่แล้วมาร่วมเครือข่ายกับ สปสช. เพราะผู้ป่วยก็มีความไว้วางใจว่าถ้าคลินิกไหนอยู่กับ สปสช. ก็เป็นคลินิกที่สามารถให้บริการได้อย่างดีโดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเงินและคลินิกเองก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย