สพฉ.จ่อยกเลิกสายด่วน 1669 ใช้ 191 แทน ปรับระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็น 3 ระดับ ดึงท้องถิ่นร่วมทำงาน
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาเรื่อง "ผนึกองค์กรระบบสุขภาพไทยเพื่อประชาชนไทยทุกคน" จัดโดยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) ว่า เราพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินนอก รพ.ผ่านมา 3 ระยะแล้ว ตอนนี้กำลังเข้าสู่ระยะที่ 3 คือ การดึงท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม โดยคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ได้แบ่งการแพทย์ฉุกเฉินเป็น 3 ระดับ คือ 1.ระดับพื้นฐาน เป็นส่วนรับแจ้งที่ไม่ต้องมีแพทย์ฉุกเฉิน และทีมพยาบาล 2.หน่วยที่มีแพทย์ฉุกเฉินหรือหน่วยระดับสูงที่จะให้คำปรึกษาทางการแพทย์ และ 3. หน่วยที่ให้คำปรึกษา มีแพทย์เฉพาะทางเฉพาะโรค
ทั้งนี้ หน่วยที่ 3 จะอยู่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด และอนาคตหมายเลข 1669 จะหายไป แล้วมาใช้หมายเลข 191 ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรับแจ้งเหตุ ซึ่งหากเป็นเรื่องของตำรวจ ทางตำรวจจัดการ ถ้าไม่ใช่เรื่องของตำรวจ ท้องถิ่นจะเข้ามาจัดการ ไม่ว่าจะเป็นกู้ภัย บรรเทาสาธารณภัย ส่วนด้านการแพทย์ รพ.จะกลับมาเป็นหน่วยคำแนะนำทางการแพทย์ฉุกเฉิน ส่วนบริการทางการแพทย์เดิมที่เคยคุ้นเคยกับชุดปฏิบัติการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (basic) ชุดปฏิบัติการกู้ชีพขั้นสูง (Advance) ก็จะมีการยกระดับเป็นหน่วยพื้นฐาน, ระดับสูง และระดับเฉพาะทาง
“ตอนนี้มีคนโทร 1669 ปีละประมาณ 6 ล้านครั้ง ส่วนการโทรสายด่วน 191 ปีละประมาณ 5 ล้านครั้ง การเข้าถึงบริการของประชาชนในการออกปฏิบัติการฉุกเฉินปีละ 1.8 ล้านครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ระยะเวลาการออกหน่วยไปช่วยเหลือนั้นลดลงเรื่อยๆ ที่น่ากลัวคือ อัตราการเสียชีวิตก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึงเพิ่มขึ้น นี่เป็นโจทย์ที่ท้าทายว่าจะจัดบริการอย่างไรให้เพียงพอกับความต้องการประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าว