xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายงดเหล้าชง สธ.แก้ พ.ร.บ.คุมน้ำเมา หลังใช้ 15 ปี เข้มโฆษณาโลโก้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เครือข่ายงดเหล้า ยื่น สธ.เสนอปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังบังคับใช้ 15 ปี ย้ำต้องห้ามโฆษณาตราเสมือน เอาโลโก้น้ำเมาไปโฆษณาสินค้าอื่น เข้มการทำงานคณะกรรมการระดับจังหวัด

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กว่า 30 คน เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี การบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และขอบคุณที่ สธ. ดำเนินการตามเจตนารมณ์กฎหมาย ลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คุ้มครองสุขภาพประชาชนและป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ โดยมี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดสธ. เป็นผู้รับมอบหนังสือ

นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า วันที่ 14 ก.พ.ของทุกปีเป็นวันครบรอบการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ประชาชนมากกว่า 13 ล้านคนลงชื่อสนับสนุน เพื่อลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกมิติ ทั้งความรุนแรงในครอบครัว อุบัติเหตุ อาชญากรรม คุ้มครองสุขภาพประชาชน ป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงได้ง่าย จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 ที่สำรวจผู้อายุ 15 ขึ้นไปพบว่า ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มจาก 38.68 ล้านคนในปี 2554 มาเป็น 41.04 ล้านคนในปี 2564 หรือมีนักดื่มลดลงประมาณ 2.3 ล้านคน เมื่อคำนวณปริมาณเอทานอลบริสุทธิ์ต่อหัวประชากรที่ดื่ม พบว่า อยู่ในระดับทรงตัว คือ 7.1 ลิตรต่อปี แต่เมื่อคำนวณต้นทุนที่สูญเสียจากปัญหาการดื่มในปี 2564 สูงกว่า 1.65 แสนล้านบาท เรายังพบผู้ต้องขังอายุไม่เกิน 25 ปีสัดส่วนถึง 88% ดื่มสุราก่อนก่อเหตุ และผู้เสียชีวิตจากโรคตับสัมพันธ์กับการดื่มมีถึง 2.5 หมื่นคนต่อปี


นอกจากนี้ ผลสำรวจความเห็นประชาชนของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ปี 2564 พบว่า 70% เห็นด้วยกับการห้ามโฆษณา และ 74% ไม่เห็นด้วยที่จะขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากขึ้นตามข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สอดคล้องกับจุดยืนของเครือข่ายที่คัดค้านในเรื่องนี้ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ประโยชน์เต็มที่จากการจำหน่าย แต่ขาดความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งยังมีความพยายามขับเคลื่อนให้กลุ่มต่างๆ รวมถึงเยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรูปแบบ จึงต้องร่วมกันต่อต้าน

ด้านนายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 15 ปีของ พ.ร.บ.นี้ เครือข่ายฯ มีข้อเสนอว่า เนื่องจากกฎหมายใช้มานานสนับสนุนให้ปรับแก้ โดยยึดหลักการแก้ไขให้ดีและ เข้มแข็งขึ้น โดยเฉพาะมาตรา 32 ห้ามใช้ตราสัญลักษณ์ (โลโก้) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปโฆษณาสินค้าอื่น อาทิ น้ำดื่ม โซดา เป็นต้น กำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนกรณีมาตรา 29 ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาครองสติไม่ได้ ให้ผู้ขายผู้ให้บริการเป็นแนวปฏิบัติได้จริง รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานบำบัดฟื้นฟูผู้ติดสุราอย่างจริงจัง สร้างแรงจูงใจให้ผู้ติดสุราเข้าสู่การบำบัด เป็นต้น นอกจากนี้ ขอให้ สธ.กำหนดตัวชี้วัดการทำงานของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด-กทม. เพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ยังทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ขาดความเอาใจใส่จริงจังโดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย


ด้าน นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สธ.สนับสนุนการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดผลกระทบจากสูญเสีย ทั้งจาการเมาแล้วขับ อุบัติเหตุ โรคต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่พบการดื่มในอายุที่น้อยลง กลไกสำคัญ คือ การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งบังคับใช้มา 15 ปีแล้ว จำเป็นต้องปรับแก้ให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันกลไกการทำงานที่เข้มแข็งของเครือข่ายทั้งจากภาครัฐ ประชาสังคมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกันรณรงค์ป้องกันปัญหา ในส่วนของระดับจังหวัดจะประสานให้มีการทำงานที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นตามข้อเสนอเครือข่าย

นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับภาคประชาชนได้เสนอเข้าไปที่สภาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการหยิบขึ้นมาพิจารณาเมื่อไร ส่วนร่างฉบับของ สธ. ยังต้องต้องกลับมาปรับปรุงตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาทักท้วง ส่วนการใช้ตราเสมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาโฆษณาสินค้าประเภทอื่น ในมาตรา 32 ของฉบับปี 2551 มีข้อความกำหนดเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามใช้ แต่กลับถูกตัดออก แต่ร่างฉบับนี้จะมีการเขียนให้ชัดเจนขึ้น จริงๆ ฉบับที่มีการใช้อยู่ปัจจุบันก็ค่อนข้างชัดเจนว่า ห้ามมีการโฆษณาส่งเสริมการตลาด ซึ่งในส่วนนี้จะรวมถึงเรื่องของการใช้ข้อความเชิญชวน เรื่องของโลโก้ต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้เพียงเห็น หรือได้ยินก็สร้างการรับรู้แล้ว








กำลังโหลดความคิดเห็น