รพ.สต.บางกร่าง นนทบุรี ใช้ “สะพานบุญโมเดล” ดึงทุกภาคส่วน ดูแลสุขภาพคนในพื้นที่ คัดกรองซคมเศร้าฆ่าตัวตาย เยี่ยมบ้าน ติดตามผู้ป่วยเรื้อรัง ชักนำกลุ่ม 608 รับวัคซีนโควิดเข็ม 3 สูงถึง 92%
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 4 ให้สัมภาษณ์ว่า รพ.สต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี ใช้ศักยภาพชุมชนเข้มแข็งมาพัฒนาระบบบริการสุขภาพชื่อ “สะพานบุญโมเดล” โดยดึงทุกภาคส่วน ได้แก่ รพ.พระนั่งเกล้า รพ.ศรีธัญญา อสม. ตำรวจ ท้องถิ่น พระสงฆ์ จิตอาสา ประชาชน และเอกชนในพื้นที่ มาร่วมให้ความรู้การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต และสร้างอาชีพให้คนในชุมชน การดำเนินการ คือ สื่อสารให้ความรู้กับทีมสุขภาพ เกี่ยวกับการป้องกันโควิด เฝ้าระวังสุขภาพจิต สร้างวัคซีนใจ ถ่ายทอดและดูแลคนในชุมชนผ่านไลน์ จัดฝึกอาชีพ เช่น ปลูกเห็ดโคนน้อย ทำเล็บเจล ขนมไทย กระเป๋าผ้าขาวม้า เป็นต้น
นพ.สุรโชคกล่าวว่า มีการคัดกรองคนในชุมชน งานพิธีต่างๆ ตามมาตรการโควิด ดูแลสุขภาพจิต อสม.ให้มีความพร้อมเยี่ยมบ้าน ประเมินสุขภาพจิตและโรคซึมเศร้าคนในชุมชน โดยใช้แบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 2 คำถาม (2Q) ดำเนินการ 786 คน พบผิดปกติ 43 คน แล้วคัดกรองต่อด้วยแบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 9 คำถาม (9Q) พบผิดปกติ 21 คน และคัดกรองด้วย 8 คำถาม (8Q) พบมีแนวโน้มฆ่าตัวตาย 4 คน ได้ส่งพบแพทย์รักษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการเยี่ยมบ้าน เช่น ครอบครัวที่สูญเสียสมาชิกจากโควิด ผู้ป่วยซึมเศร้า ผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุ มี อสม. ช่วยส่งยาให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถมารับยาที่ รพ.สต. ทำให้รับยาต่อเนื่องตามแผนการรักษา
"โครงการสะพานบุญโมเดล เป็นการดึงคนในชุมชนที่มีพลังเข้มแข็ง ทุ่มเทเพื่อสุขภาพของคนในชุมชนเอง เกิดการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในชุมชน สามารถชักนำกลุ่ม 608 ในพื้นที่ให้รับวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 3 ได้ถึง 92% คัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ 115 คน มะเร็งลำไส้ใหญ่ 185 คน เป็นไปตามเกณฑ์เป้าหมายการคัดกรอง" นพ.สุรโชคกล่าว
