"อนุทิน" เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่ใช้ชุดตรวจ ATK ราคาแพง หากผิดก็เข้า อ.ก.พ.สธ.ลงโทษตามกฎหมาย ไม่หวั่นปมย้าย "หมอสุภัทร" กระทบฐานเสียงพรรค ฟุ้งผลงานเพียบ ระบุ กมธ.กม.เชิญใครหารือก็ควรไป ไม่มีอะไรต้องปิดบัง อย่าหลบๆ ซ่อนๆ
จากกรณีม็อบเพื่อนหมอสุภัทรฯ มาชุมนุมขอพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้งที่ สธ. และทำเนียบรัฐบาล ประเด็นการโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จาก ผอ.รพ.จะนะ เป็น ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งนายอนุทิน ไม่ได้มีการเข้ามาที่กระทรวงสาธารณสุขตลอด 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ตนมีภารกิจฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้วย ช่วงที่ผ่านมามีการประชุมมาตรา 152 เสมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่มีลงคะแนน อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีการเตรียมตัวเพื่อตอบและชี้แจงประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งของ สธ.เป็นเรื่องทางการแพทย์ ก็ต้องให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์เป็นผู้ตอบ ท่านปลัด สธ. เลขาธิการ สปสช. อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงไปชี้แจงในเรื่องของทางการแพทย์และเทคนิคต่างๆ ก็ทำให้ประชาชนได้รับความชัดเจนและมั่นใจ ตนก็ต้องทำงาน รับหน้าที่ไปปฏิบัติภารกิจหลายแห่ง ทำให้ไม่ได้เข้ากระทรวงช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะกระทบฐานเสียง นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ พรรคภูมิใจไทยตั้งมา 10 กว่าปีแล้ว เติบโตขึ้นมาตามลำดับ และ 4 ปีที่มาเป็นรัฐบาลหรือตัวผมมาเป็นรองนายกฯและ รมว.สธ. ก็ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง เช่น คมนาคมแม้มีโควิดก็ไม่ได้หยุดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สธ.ก็เป็นเฟืองจักรสำคัญที่ทำให้ไทยเปิดประเทศได้เต็มรูปแบบ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก คนไทยเดินทางไปต่างประเทศได้ มีภูมิคุ้มกันอย่างเข้มแข็ง ควบคุมการระบาดได้ ผู้คนมีภูมิคุ้มกันพอสมควร เกิดความปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด ไม่มีความสูญเสีย เศรษฐกิจพลิกฟื้น การท่องเที่ยวกลับเข้ามา อุตสาหกรรมการให้บริการต่างๆ ก็กลับเข้ามา แทบจะเป็นปกติ ต้นปีนี้ทุกอย่างก็มีความพร้อม นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ 80% ขออยู่ในประเทศไทยต่อจากเดิมที่จะย้ายฐานการผลิต เพราะเชื่อมั่นความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขไทย
ถามถึงกรณีคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ส่งหนังสือเรียกปลัด สธ. นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 12 นพ.สุภัทร และนายรุ่งเรือง ระหมันยะ ผู้ร้องเรียน ประชุมร่วมกันวันที่ 22 ก.พ. เพื่อพิจารณากรณีการโยกย้าย นพ.สุภัทร นายอนุทินกล่าวว่า ถ้านัดมาก็ไป อย่างตอน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เรียกตนไปชี้แจงกรณีงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคตนก็ไป ท่านก็เข้าใจและขอบคุณ สปสช. สธ. และตนที่ไปพบ ใครเรียกก็ไป เมื่อเรียกปลัดก็ต้องไป ขอให้ไปกันทุกคนดีที่สุด จะได้ไปเจรจาทำความเข้าใจกัน อย่าหลบๆ ซ่อนๆ
ถามว่ามีการชี้แจงสร้างความเข้าใจหรือไม่ เพราะเรื่องราวขยายไปนอกกระทรวง นายอนุทินกล่าวว่า ความเข้าใจง่ายนิดเดียว คำว่าธรรมาภิบาลคืออะไร ก็คือการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดถูกระเบียบถูกต้อง ไม่ใช่ถูกใจ หากอำนาจลงนามอยู่ภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย ไม่งั้นทุกคนหรือทุกกระทรวงก็ไม่ต้องมีปลัด ไม่ต้องมีอธิบดี ที่บอกว่า สธ.ไม่มีธรรมาภิบาล ถามว่าไม่มีตรงไหน เราไม่ได้ทำอะไรนอกกรอบ เป็นไปตามระเบียบ อย่างสมัยที่ช่วงมีโควิดตอนซื้อ ATK ตนเป็นคนบอกว่าอย่าเฉพาะเจาะจง แม้จะใช้ข้อยกเว้นได้ เพราะ อย. อนุมัติ ATK มากกว่า 50 ยี่ห้อแล้ว ความจำเป็นในการจำเพาะเจาะจงไม่มี จึงเลิกเรื่องนั้นไป ถามว่าตรงนี้เป็นธรรมาภิบาลหรือไม่ ก็ทำอะไรโปร่งใสตรวจสอบได้ ส่วนที่มีการซื้อแบบแพงๆ ก็ต้องไปตรวจสอบ
ถามต่อว่ามีการตรวจสอบพื้นที่ใด และผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า การสอบข้อเท็จจริงยังเป็นความลับ แต่เมื่อรวบรวมทุกอย่างได้ก็จะนำเสนอตามขั้นตอน รัฐมนตรีจะเกี่ยวเมื่อสรุปมาแล้วว่าเป็นความผิด ก็ต้องเข้า อ.ก.พ.สธ. ซึ่ง รมว.สธ.เป็นประธาน ถ้ามีความผิดก็จะมีโทษตามกฎหมายซึ่งมีการประชุมทุกเดือน มีการกล่าวโทษลงโทษการดำเนินการทางกฎหมายเป็นประจำอยู่แล้ว
ถามถึงกรณีทีมส่วนกลางลงไปตรวจสอบ รพ.จะนะ จะเป็นการให้คำตอบชาวบ้านที่ถามถึงเหตุผลในการย้าย นพ.สุภัทร หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า รัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์มอบให้ไปตรวจสอบ และไม่เคยคุยเรื่องนี้กับปลัด ท่านก็จะคุยกับตนว่า วันนี้มีม็อบ ขอให้อยู่ทำเนียบเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า แล้วตนก็มีงานที่ทำเนียบพอดี ซึ่งงานก็มาก มีประชุมหลายเรื่อง ส่วนการตรวจสอบเป็นเรื่องของผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เป็นกระบวนการทั่วไปที่เกิดขึ้นกับทุกคนตามระบบราชการอยู่แล้ว ถ้าผมทำไม่ดี นายกฯ ก็ต้องสั่งตรวจสอบผมเหมือนกัน สำคัญคือต้องทำอะไรให้มันดี อย่าไปทำอะไรผิดและอย่าไปบอกว่าตัวเองดี กลองดีต้องมีคนตีถึงดังเท่านั้น อย่าไปดังเอง
ถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเรียกมาคุยกันใหม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตัวผมเรียกไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าตัวผมเรียนเท่ากับว่าไปก้าวก่ายปลัด มาตรา 158 ห้ามไปก้าวก่ายเรื่องของข้าราชการประจำ ตรงนี้ผมเคร่งครัดอยู่แล้ว