"อนุทิน" รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ Bivalent ล็อตบริจาคจากทูตเกาหลีใต้ 5.01 แสนโดส ส่งเสริมสัมพันธ์ 65 ปี เผยอยู่ระหว่างตรวจรุ่นรับรองการผลิต เตรียมให้แต่ละจังหวัดเปิดลิงก์ลงทะเบียนแจ้งความต้องการ ก่อนจัดส่งให้สิ้น ก.พ.นี้ ใช้ฉีดเป็นบูสเตอร์โดส แจงฉีดตามคำแนะนำคณะอนุกรรมการฯ ไม่เข้าข่ายฉีดเยอะ
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมอบวัคซีนโควิด 19 ชนิด 2 สายพันธุ์ (Bivalent) ของไฟเซอร์ จำนวน 501,120 โดส ล็อตบริจาคจากสาธารณรัฐเกาหลี โดยมีนายมุน ซึง ฮยอน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยเป็นผู้ส่งมอบ
นายอนุทินกล่าวว่า สถานการณ์ช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา เกาหลีใต้สนับสนุนไทยหลายเรื่อง โดยเฉพาะตอนปี 2564 เราได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลเกาหลีใต้ อนุมัติส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 4 แสนกว่าโดสชุดแรกมาถึงเมืองไทย มาทำการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลคนไข้เป็นลำดับแรก ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 บริจาควัคซีนไฟเซอร์ Bivalent ประมาณ 5 แสนโดสเศษ เป็นรุ่น 2 Bivalent ซึ่งคนไทยหลายคนอยากจะใช้วัคซีนตัวนี้ ก็จะนำมาใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในคนที่ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม จากการศึกษาวิจัยสามารถลดการติดเชื้อแบบมีอาการได้ร้อยละ 30-50 มีความปลอดภัย จากนี้จะจัดสรรไปตามจังหวัดต่างๆ ให้บุคลากรสาธารณสุข และ กทม. ให้โควตา UHosnet กรมการแพทย์และสภากาชาดไทย และเปิดลิงก์ให้ทุกจังหวัดลงทะเบียนแจ้งความต้องการ ผู้ที่สนใจก็สามารถติดต่อ รพ.ได้ โดยจะจัดส่งวัคซีนประมาณสิ้น ก.พ.นี้ ซึ่งขณะนี้วัคซีนจัดส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว
"ช่วงนี้จะมีการบริจาควัคซีนจากหลายๆ ประเทศ แต่หากยังไม่ผ่านการรับทราบและเห็นชอบของ ครม. จึงขอยังไม่เปิดเผยชื่อประเทศ แต่จะมีวัคซีนป้องกันโควิดเข้ามาในไทยเป็นจำนวนหนึ่ง ที่จะทำให้เกิดความมั่นใจได้และเป็นวัคซีน Bivalent ด้วย ก็จะประหยัดงบประมาณในการจัดหาวัคซีนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก" นายอนุทินกล่าว
ถามว่ามีข้อมูลความปลอดภัยของวัคซีนรุ่น 2 นี้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นความปลอดภัยที่ผู้ผลิตวัคซีนทำการค้นคว้าทดลองวิจัยศึกษา และทำการขึ้นทะเบียนกับ อย.ของแต่ละประเทศ รวมถึง อย.ไทย มีการตรวจรับรองรุ่นการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ วัคซีนทุกล็อตที่เข้ามาไม่สามารถเปิดตู้แล้วไปฉีดให้กับประชาชนได้เลย ต้องมีการสุ่มตรวจเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า กระบวนการผลิตได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง
ถามว่าจะเริ่มฉีดได้ช่วงไหน นายอนุทินกล่าวว่า สามารถฉีดได้เรื่อยๆ ตอนนี้ก็เป็นวัคซีนที่สามารถนำมาใช้เป็นบูสเตอร์โดส ฉีดเข็ม 3 พน 3 เดือนมาฉีดเข็ม 4 ผ่านไป 4 เดือนก็ไปฉีดเข็ม 5 หรือเข็มถัดๆ ไป ตอนนี้หน่วยบริการสาธารณสุขพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ สิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจากที่ผู้คนมีภูมิคุ้มกันโดยการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อ ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในประเทศระดับสูง การติดเชื้ออาจจะมีบ้าง แต่ผู้ที่ได้รับอันตรายจากเชื้อโควิดและเสียชีวิตก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ วันนี้ได้รับรายงานว่า อัตราการป่วยหนัก เสียชีวิต และติดเชื้อลดลงเป็นลำดับแม้จะมีการเปิดประเทศแล้ว
ถามถึงกรณีในสหรัฐฯ มีการออกมาต่อต้านการฉีดวัคซีน mRNA และนักวิชาการของไทยบอกว่าไม่ควรฉีดเยอะโดยเฉพาะ mRNA นายอนุทินกล่าวว่า คำว่าไม่ควรฉีดเยอะ คือ ไม่ใช่ทุกเดือนมาฉีด 2-3 เดือนมาฉีด แต่ให้ฉีดตามที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติให้คำแนะนำ ประเทศไทยเราทำมากกว่าประเทศอื่นเยอะในเรื่องของการศึกษาผลของการฉีดวัคซีน เราคงไม่สามารถไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นได้ เราต้องดูผลลัพธ์ ซึ่งอัตราการติดเชื้อของเราน้อยมาก อัตราการเจ็บป่วยถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใช้ ICU อยู่ในอัตราที่ต่ำมาก คนที่ป่วยหนักเมื่อย้อนประวัติกลับมาจะพบว่ามีโรคประจำตัวอื่นๆ อยู่ และได้รับวัคซีนไม่ครบตามที่ได้แนะนำไว้ อัตราการเสียชีวิตก็เช่นกัน คนที่ได้รับวัคซีนมากกว่า 4 เข็มขึ้นไปแทบจะไม่มีการเสียชีวิตเฉพาะจากโรคโควิด
ด้านนายมุน ซึง ฮยอน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและเกาหลีใต้ โดยปี 2021 มีการบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และวันนี้ก็เป็นวัคซีนไฟเซอร์ ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือ รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์ 65 ปี ระหว่างไทยและเกาหลีใต้ หวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งประเทศไทยและเกาหลีใต้
