ปรับเกณฑ์รับรองผลงาน อสม.เบิกจ่ายค่าป่วยการใหม่ ไม่ต้องผ่าน รพ.สต.แล้ว ให้เริ่มที่ สสอ.ได้เลย เริ่มแล้วในบางพื้นที่ ก่อนเดินหน้าพร้อมกันทั่วประเทศ มี.ค.นี้ เผยส่งผลงาน 9 ด้านผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ชี้ช่วยลดขั้นตอน เบิกจ่ายรวดเร็วขึ้น เผยค่าป่วยการอยู่ที่ 1 พันบาทต่อเดือน ส่วนข้อเสนอ 2 พันบาทอยู่ระหว่างเสนอ ครม.เห็นชอบ
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์การปฏิบัติงานของ อสม. และการรายงานผลการปฏิบัติงานตามแบบ (อสม.1) โดย นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า คณะกรรมการกลางส่งเสริมและสนับสนุน อสม.กลางเห็นชอบประกาศหลักเกณฑ์การปฏิบัติงานของ อสม.และการรายงานผลการปฏิบัติงานตามแบบ (อสม.1) พ.ศ. 2566 โดยกำหนดให้ อสม.จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ร่วมจัดทำระบบการยืนยันผลงาน อสม.ผ่านระบบ e-Social Welfare ให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด โดย อสม.จะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานประจำทุกเดือนใน 9 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1.ส่งเสริมสุขภาพ 2.เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค 3.ฟื้นฟูสุขภาพ 4.คุ้มครองผู้บริโภค 5.การจัดการสุขภาพชุมชนและการมีส่วนร่วมในแผนสุขภาพตำบล 6.สนับสนุนอาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.) 7.การใช้ยาสมเหตุสมผล/การบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ 8.การเข้าร่วมกับทีมหมอครอบครัวในการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและครอบครัวในชุมชน และ 9.กิจกรรมอื่นๆ ตามสภาพปัญหาของชุมชน
ด้าน นพ.สุระ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายในการดูแล อสม. จึงต้องใช้ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นกฎหมายใหญ่ในการดูแล อสม. ซึ่งจะมีเรื่องของการทำงานของ อสม. โดยมีกรรมการ 3 ชุด คือ 1.คณะกรรมการระดับชาติ หรือคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุน อสม.กลาง 2.คณะกรรมการระดับจังหวัด และกรรมการที่ดูแลใน กทม. เพื่อสนับสนุนส่งเสริม อสม.ให้ปฏิบัติตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งล่าสุดมีการประกาศกำหนดเรื่องการจัดทำรายงานผลงาน เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงได้ประชุมชี้แจงให้หน่วยงานระดับภูมิภาคเข้าใจว่า เพราะมีการปรับขั้นตอนการรายงานให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเดิมการรับรองการทำงานของ อสม.จะเริ่มจากส่งไปยังหัวหน้า อสม.หมู่บ้าน อสม.ตำบล ไปยัง รพ.สต. สาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และ สบส.ตามลำดับ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน แต่ก็ปรับใหม่ให้ส่งไปยัง สสอ.ก่อน
"การเบิกจ่ายค่าป่วยการจะมีความรวดเร็วขึ้น เดิมเราให้ รพ.สต.รับรอง ก็เป็นขั้นตอนที่ยาวเกินไป จึงลดจากขั้นตอนที่ 1 จาก รพ.สต. มาที่ สสอ.เลย ทำให้สั้นกว่าเดิม แล้วค่อยส่งไปยัง สสจ.และ สบส.ก็จะทำให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ได้เริ่มใช้ระบบนี้ในพื้นที่ที่พร้อมแล้ว แต่จะเริ่มทั้งหมดในช่วง มี.ค.นี้ เชื่อว่าการเบิกจ่ายจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบรายงานจะเป็นระบบคัดออก คือ รายงานเฉพาะคนที่ไม่ได้ค่าป่วยการ เพราะคนที่รายงานผ่านจะอยู่ในระบบอยู่แล้ว แต่ผลงานไม่ผ่านการรับรองจะถูกคัดออก ดังนั้น แทนที่รายงานร้อยคน ก็จะรายงานคนเดียวที่ถูกตัดออก" นพ.สุระกล่าว
เมื่อถามว่าการปรับระบบใหม่นี้ไม่ให้เริ่มที่ รพ.สต. เนื่องจากการถ่ายโอน รพ.สต.ไปยังท้องถิ่นด้วยหรือไม่ รพ.สุระกล่าวว่า เราเตรียมเรื่องนี้มาพอสมควร ว่าเบิกจ่ายถ้าให้สั้นลงและเร็วขึ้นวิธีนี้น่าจะดีที่สุด ซึ่ง สสอ.ก็ยังอยู่ในโครงสร้าง สธ.น่าจะดูแลเรื่องนี้ให้เราได้ดี
สำหรับเงินค่าป่วยการ อสม.ได้ 1 พันบาทต่อเดือน ช่วงโควิดเราขอเพิ่มให้ 500 บาทต่อเดือน เพราะมีภาระงานเพิ่มขึ้นในส่วนของโควิด ซึ่งเป็นงบกลางแต่ขณะนี้สิ้นสุดลงไปแล้ว หลังจากเปลี่ยนโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ภาระงานก็น้อยลงไป ตอนนี้ปีงบประมาณ 2566 ก็ได้ที่ 1 พันบาทต่อเดือน ส่วนเรื่องการขอ 2 พันบาทต่อเดือน ขณะนี้ สบส.อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลและเอกสารกำลังเสนอปลัด สธ. เพื่อเสนอ รมว.สธ.ลงนามใน ครม. เพื่อให้ ครม.เห็นชอบก่อน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการงบประมาณได้ในช่วงการเปิดสภา
นพ.สุระกล่าวว่า นอกจากงาน 9 ด้านที่ต้องรายงาน ปัจจุบัน อสม.ได้รับมอบหมายงานใหม่ ทั้งในเรื่องของ 3 หมอ เรื่องยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลมองว่า อสม.น่าจะเป็นกลุ่มบุคคลและทีมงานระดับพื้นที่ที่จะรู้ความเคลื่อนไหวผู้เสพผู้ติดยาเสพติดที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด และเรื่องคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งมีผู้สูงอายุถึง 12 ล้านคน ที่ต้องคัดกรองภาวะถดถอย 9 ด้าน ซึ่ง อสม.1 จะไม่มีในเรื่องการรายงาน แต่เป็นผลงานของ อสม.ที่เราเก็บไว้
ถามถึงความคืบหน้าของฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. (ฌกส.อสม.) นพ.สุระกล่าวว่า เรามีองค์กรดูแลอยู่ ซึ่ง ครอบคลุม อสม.และคู่สมรส ล่าสุด ตอนเกิดเหตุที่หนองบัวลำภู มีประธาน อสม.เสียชีวิตได้ 5 แสนบาท เกือบเท่าข้าราชการ ซึ่งเรามี อสม. 1.03 ล้านคน เก็บคนละ 50 สตางค์ มอบให้ อสม.ที่เสียชีวิต ขณะนี้มี อสม.เข้าร่วม ฌกส.แล้ว 90 กว่า%