กรมอนามัย แนะ "วาเลนไทน์" มอบผลไม้สีแดงสื่อรักแทนขนมหวาน ได้ประโยชน์สุขภาพ ดีกว่าให้น้ำตาลทำให้อ้วนง่าย เผย 58% มองเซ็กซ์ไม่ใช่การแสดงออกของความรัก 75% อยากมอบความรักให้พ่อ-แม่-คนในครอบครัว ย้ำวัยรุ่นรักให้เป็นและปลอดภัย
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การมอบของขวัญในวันวาเลนไทน์ นอกจากดอกกุหลาบแล้ว นิยมมอบขนมหวานเป็นสัญลักษณ์แทนความรัก ซึ่งถือเป็นอาหารที่ให้พลังงาน มาจากน้ำตาล โดยช็อกโกแลต 1 ชิ้นพอดีคำ ขนาด 10 กรัม ให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี คุกกี้ 1 ชิ้น ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 กิโลแคลอรี สตรอว์เบอร์รีเคลือบช็อกโกแลต 1 ชิ้น ขนาด 35 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี คัพเค้ก 1 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ให้พลังงานประมาณ 130 กิโลแคลอรี บราวนี่ 1 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ให้พลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี หากกินโดยไม่มีการควบคุมบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ระบบภูมิคุ้มกันเสียสมดุล ทำให้ติดเชื้อง่าย อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนในระยะยาวได้ ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่มากไปอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ ได้
"การบริโภคน้ำตาลไม่ควรเกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชาต่อวัน พลังงานจากอาหารว่าง ขนม และเครื่องดื่ม ไม่ควรเกินวันละ 150 - 200 กิโลแคลอรีต่อวัน ดังนั้น หากกินช็อกโกแลต คุกกี้ สตรอว์เบอร์รีเคลือบช็อกโกแลต ไม่ควรเกินวันละ 3-4 ชิ้น ส่วนคัพเค้กและบราวนี่ไม่ควรมากกว่า 1 ชิ้นต่อวัน หากทำขนมเองได้แนะนำให้เลือกสูตรหวานน้อย เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยใยอาหารจากธัญพืชต่างๆ หรือผลไม้รสไม่หวานจัด" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ขอแนะนำว่าให้มอบผลไม้สีแดงที่สื่อถึงความรัก และยังอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารพฤกษเคมีที่มีคุณประโยชน์มากมาย ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ อาทิ แอปเปิ้ลแดงมีใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอลมีฟลาโวนอยด์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สตรอว์เบอร์รีมีวิตามินซีค่อนข้างมาก ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ชะลอการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ใยอาหารสูงช่วยควบคุมความดันเลือด องุ่นแดง มีสารแอนโทไซยานิน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระลดการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด และชมพู่ทับทิมจันทร์ มีสารไลโคพีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหารช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด นอกจากนี้ คู่รักควรสร้างสุขภาพที่ดีด้วยการชวนกันออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ จากการสำรวจอนามัยโพล เรื่อง รักอย่างไร ให้เหมาะสม เตรียมพร้อมก่อนวาเลนไทน์ พบว่า ร้อยละ 58 มองว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่การแสดงออกถึงความรัก และร้อยละ 92.3 มองว่า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เช่น ขณะเป็นนักเรียน เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เมื่อสอบถามถึงปัญหาที่เคยพบเห็นในช่วงวันวาเลนไทน์ 3 อันดับแรก พบว่า วัยรุ่นอยากรู้ อยากลองมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ตั้งใจ ร้อยละ 72 รองลงมา คือ การเสียตัว เสี่ยงท้องก่อนวัยอันควร ร้อยละ 55.8 และการรวมกลุ่มดื่มเหล้า มั่วสุม การพนัน เสพยา ร้อยละ 47 ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ ปี 2564 พบว่า หญิงอายุ 15-19 ปี มีอัตราการคลอดอยู่ที่ 24.4 ต่อพันคน แนวโน้มลดลง หญิงอายุ 10 – 19 ปีมีการคลอดซ้ำอยู่ที่ร้อยละ 7.5 การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นยังเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและต้องเร่งแก้ไข สิ่งที่สำคัญ คือ วัยรุ่นเอง ต้องรู้จักรักให้เป็น รักให้ปลอดภัย รู้วิธีการดูแลเพื่อป้องกันตนเองและ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ด้วยการให้เกียรติและเคารพทุกเพศ โดยเฉพาะชาย หญิงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกันสองต่อสองในที่ลับตาคน และมีสติตรึกตรองอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งจะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ตั้งใจ หรือหากจะมีเพศสัมพันธ์ต้องมั่นใจว่าจะปลอดภัย และต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย
"เทศกาลวาเลนไทน์การแสดงความรักเป็นสิ่งที่ดี สามารถเกิดขึ้นได้ ทุกเพศ ทุกวัย ไม่มีรูปแบบตายตัว ดังนั้น ทุกคนสามารถแสดงความรักได้ ไม่เพียงเฉพาะกับแฟนหรือคนรักเท่านั้น แต่สามารถมอบความรักให้กับทุกคนได้ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือแม้แต่คนที่ไม่รู้จักกัน เพียงแค่พูดดี ทำดี คิดดี แสดงความหวังดีให้กัน ยิ้มให้กัน ก็จะช่วยให้รอบตัวมีแต่ความรัก และมอบความสุขให้แก่กัน ช่วยเกื้อหนุนกันเพื่อให้สังคมไทยมีความน่าอยู่มากขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว