"สาธิต" แจงตั้งโฆษกส่วนตัว รับมือช่วงเลือกตั้ง เผยวาเลนไทน์ลุยสื่อสารวางแผนครอบครัว ทั้งกลุ่มอยากมีลูก และไม่อยากมี เผยหากต้องการมีลูกอย่าอาบน้ำอุ่นนานก่อนมีเซ็กซ์ ด้าน "สูตินรีแพทย์" ชี้มีงานวิจัย อุณหภูมิส่งผลต่อ "อสุจิ" แช่น้ำอุ่น ขับมอเตอร์ไซค์นานๆ สวมกางเกงเป้าฟิต ทำอสุจิเสื่อม คนออกกำลังกายหนักก็ส่งผลต่อการท้อง เผย 4 กลุ่มเข้าข่ายมีบุตรยาก 50% มารดาตายไม่ได้เกิดจากสูติกรรม แต่มาจากโรคประจำตัว
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวว่า เนื่องจากโฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ.ยื่นใบลาออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงตั้งโฆษกคนใหม่ คือ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ สูตินรีแพทย์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งมาช่วยราชการที่กรมอนามัย เพื่อสื่อสารงาน สธ.ในส่วนของกรมต่างๆ ที่ตนได้รับมอบหมายให้ดูแล เนื่องจากประมาณต้นเดือนมีนาคม หากรัฐบาลหมดวาระ ตนก็ต้องกลับพื้นที่ไปหาเสียง แต่อำนาจหน้าที่ของ รมช.สธ.ยังอยู่ 100% จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มาแทนที่ งานต่างๆ ตามกรมที่ดูก็จะสื่อสารผ่านโฆษกส่วนตัว โดยช่วงต้นปีงบประมาณ 2566 ก็มีหลายนโยบายเดินหน้าอยู่ เช่น ก้าวท้าใจ Season 5 เรื่องสถานพยาบาล การจับคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า การทำฟาสต์แทร็กของ อย. เรื่องการอนุญาตและจำหน่ายช่อดอกกัญชา โดย นพ.โอฬาริกก็ทำงานในด้านของงานอนามัยเจริญพันธุ์ ก็ให้มุ่งเน้นมาสื่อสารเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ด้วย
นายสาธิตกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรัก จึงอยากสื่อสารว่า วันวาเลนไทน์รักเป็น ปลอดภัย สุขกายสบายใจ โดยมีข้อแนะนำ 2 กลุ่มทางเลือก คือ กลุ่มที่ต้องส่งเสริมเรื่องการมีบุตร เราแนะนำวันแห่งความรักให้เริ่มวางแผนครอบครัวมีลูกร่วมกัน มีหลายเรื่องแนะนำ เช่น นัดไปคลินิกเพื่อตรวจสุขภาพความพร้อมของคู่รัก เพื่อเริ่มต้นมีเพศสัมพันธ์ด้วยความปลอดภัย ปรึกษาคลินิกเพื่อวางแผนครอบครัว และที่เน้นในปีนี้คือ คนที่ต้องการมีลูกก่อนมีเพศสัมพันธ์ อย่าอาบน้ำอุ่นนานเกินไป ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ยังต้องรณรงค์ป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็รณรงค์ให้ใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน กรมอนามัยเดินสายแจกมาหลายวันแล้ว
นพ.โอฬาริก กล่าวว่า ข้อแนะนำเรื่องน้ำอุ่นนั้น ตรงนี้มีงานวิจัยที่ทำมาแล้วหลายปี โดยปีที่แล้วก็มีการทำ Meta analysis เอาข้อมูลจากแหล่งงานวิจัยมารวมกัน คือ ความร้อนอุณหภูมิมีผลกับตัวอสุจิอยู่แล้ว ไม่เฉพาะอาบน้ำอุ่น แต่การใส่กางเกงยีนส์รัดแน่นๆ การนั่งขับรถนานๆ การขี่มอเตอร์ไซค์นานๆ รวมถึงนักกีฬาปั่นจักรยานกลุ่มนี้จะมีอสุจิที่น้อยกว่าคนทั่วไป ทั้งปริมาณและคุณภาพ จึงแนะนำให้ลดการอาบน้ำอุ่นนานๆ หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงรัดๆ หรือใส่ที่หลวมหน่อย ทั้งนี้ เรื่องการอาบน้ำอุ่นนานๆ หรือนั่งขี่รถนานๆ ไม่ได้มีตัวเลขชัดเจน เพราะคิดกับหลายอย่าง คือ อุณหภูมิ อย่างต่างประเทศขี่นานๆ อากาศไม่ร้อนเหมือนไทย แต่เมืองไทยอากาศร้อน เบาะก็ร้อน ขี่นานๆ ก็มีผล
"ขึ้นกับอุณหภูมิและระยะเวลา ปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขชัดๆ แต่มีงานวิจัยว่าจะคุมกำเนิดผู้ชายโดยหลักการนี้ ปีที่แล้วมีการประกวดนวัตกรรม โดยมีสิ่งประดิษฐ์ "หมอต้มไข่" ก่อนมีเพศสัมพันธ์ให้เอาอัณฑะแช่ จนอุณหภูมิสูงขึ้น อสุจิจะเสื่อมสภาพไป แต่ยังอยู่ในการวิจัย ไม่ใช่วิธีการคุมกำเนิด ส่วนผู้หญิงอุณหภูมิไม่ได้มีผลต่อคุณภาพไข่ เพราะไข่อยู่ในร่างกายอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ส่วนผู้ชายอยู่ภายนอกร่างกาย อสุจิจะสร้างได้ดี อุณหภูมิต้องต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส" นพ.โอฬาริกกล่าว
ถามถึงคนที่ออกกำลังกายอาจกังวลต้องมีคำแนะนำหรือไม่ นพ.โอฬาริกกล่าวว่า ต้องชั่งน้ำหนัก คนออกกำลังกายอย่างหนัก การแต่งกาย การฝึกสอนจำเป็นอยู่แล้ว แต่คนที่อยากมีลูกก็ต้องวางแผนกัน อาจลดการฝึกซ้อม รวมถึงผู้หญิงที่เป็นนักกีฬาวิ่งมาราธอน ไตรกีฬา ประจำเดือนจะไม่ค่อยมีเหมือนกัน จะมีร่างกายผอมเกินไป จะมีลูกยากไม่เหมือนกัน
ถามถึงกรณีคนมีบุตรยาก นพ.โอฬาริกกล่าวว่า กลุ่มที่เข้าข่ายเราแบ่งเป็น 4 กลุ่มตามช่วงอายุ คือ 1.อายุน้อยกว่า 35 ปี ปล่อยมาแล้ว 1 ปี มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ยังไม่ท้องให้รีบมาหาแพทย์ 2.อายุ 35-40 ปี ปล่อย 6 เดือน มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ 2-3 คัร้งต่อสัปดาห์ ยังไม่ท้องให้รีบมาพบแพทย์ 3.อายุเกิน 40 ปี ถือว่ามีบุตรยากทันทีให้รีบมาพบแพทย์ และ 4. กลุ่มที่เคยมีโรคบริเวณรังไข่ ทั้งช็อกโกแลตซีส ผ่าตัดมา รับยาเคมีบำบัด ได้ยาที่ส่งผลให้คุณภาพไข่เสียไป ก็ให้รีบมาพบแพทย์ ทั้งนี้ กรมอนามัยจัดบริการ โดยศูนย์อนยามัยต่างๆ เริ่มมีคลินิกเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยาก และมีความร่วมมือกับภาคเอกชน เนื่องจากภาคัรฐหลายที่ยังไม่มีคลินิกภาวะมีบุตรยากก็เปิดให้ภาคเอกชนมาร่วมมือในการส่งตรวจ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ก็มีการเทรนนิ่งโปรแกรมพิเศษสำหรับหมอเพื่อให้มีความรู้เรื่องการมีบุตรยากเพิ่มขึ้น
นพ.โอฬาริกกล่าวว่า ข้อมูลของประเทศไทย มารดาตาย 50% เกิดจากสาเหตุที่ไม่ใช่ทางสูติกรรม แต่เกิดจากแต่เกิดจากโรคประจำตัวที่มีอยู่ เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ จึงได้มีการหารือร่วมกลุ่มราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ราชวิทยาลัยเวชศาสตร์ครอบครัวฯ และราชวิทยาจิตแพทย์ฯ ในการวางแผนคุมกำเนิดหรือวางแผนตั้งครรภ์ในคนมีโรคประจำตัวที่ยังไม่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์ เมื่อมาตรวจกับแพทย์เจ้าของไข้ ก็ให้มีการปรึกษาเรื่องวางแผนครอบครัวด้วย ในกรณีที่อยากมีบุตร ต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรง คุมอาการให้ได้ ลดยาที่รับประทานประจำก่อนการตั้งครรภ์ แต่หากไม่ต้องการมีบุตรก็ให้วางแผนเรื่องการคุมกำเนิดทั้งชั่วคราวและถาวร รวมถึงคนที่เป็นโรคอ้วนต้องมีการวางแผนก่อนการตั้งครรภ์ด้วย ซึ่งประเทศไทยมีคนน้ำหนักเกิน 60 % ในจำนวนนี้เป็นโรคอ้วน 37%
