xs
xsm
sm
md
lg

ลุยคัดกรองสุขภาพจิต "เด็กอาชีวะ" แนะสังเกตภาวะซึมเศร้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมสุขภาพจิตจับมือ สอศ. ลุยคัดกรองสุขภาพจิตวัยรุ่น "อาชีวะ" เผยโควิดทำเด็กไทย 15-24 ปี คะแนนสุขภาพจิตต่ำสุด แนะสังเกตภาวะซึมเศร้า

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวภายหลังการลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการ “คู่เครือข่ายดูแลจิตใจ ก้าวสู่คนไทยคุณภาพ” ระหว่างกรมสุขภาพจิต กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า ที่ผ่านมาเกิดความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการ เพื่อดูแลสุขภาพจิตวัยรุ่น ซึ่งทั่วโลกคาดการณ์ว่าหลังโควิด 19 จะมีปัญหาสุขภาพจิตตามมาเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ต้องเผชิญกับความยากในการเรียน การเรียนรู้ทักษะทางสังคม และกลุ่มวัยรุ่นที่มีความแตกต่างจากวัยอื่นในแง่ความสัมพันธ์ของครอบครัว ทำให้ช่วงโควิดมีความไม่ลงตัวกันมากขึ้น ในประเทศไทยมีการสำรวจสุขภาพจิต เมื่อปี 2565 พบว่า กลุ่มวัยรุ่น อายุ 15-24 ปี มีคะแนนต่ำที่สุด ดังนั้น หากเราไม่แก้ไข คะแนนที่ต่ำนั้นจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น กลายเป็นปัญหาที่รุนแรงในวัยทำงาน เราจึงหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อดูแลส่งเสริมสุขภาพจิต ให้ได้รับการคัดกรองเบื้องต้น ก็จะทำให้เราช่วยเหลือเด็กได้

“ธรรมชาติของวัยรุ่นเป็นวัยเปราะบาง เพราะมีการเปลี่ยนผ่านทางร่างกายและจิตใจ มีความต้องการและการตอบสนองกับสังคมที่ไม่เหมือนเดิม เพราะเป็นช่วงรอยต่อ รวมถึงข้อจำกัดเรื่องความลักลั่นที่สมองยังเติบโตไม่ลงตัว ฉะนั้น พัฒนาทางอารมณ์เติบโตไปในขณะที่สมองที่ควบคุมเหตุผล อาจตามไม่ทันกัน จึงทำให้วัยรุ่นเปราะบาง อีกทั้งความคาดหวังจากคนรอบข้างทำให้วัยรุ่น อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว กับคุณครู กับเพื่อน กับคนรอบข้างจึงเกิดง่ายขึ้น” พญ.อัมพร กล่าว

พญ.อัมพร กล่าวว่า ทุกครั้งที่เกิดปัญหา ทำให้วัยรุ่นได้เรียนรู้ ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจอารมณ์ เข้าใจพ่อแม่ เข้าใจว่าควรตอบสนองกับคนรอบข้างอย่างไร แต่ในทางกลับกัน หากเขาไม่เข้าใจตัวเองหรือไม่ได้รับความเข้าใจ ก็จะเป็นจุดอ่อนของวัย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า มาเป็นโรคซึมเศร้า นำมาสู่ความคิดทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ การสังเกตภาวะเสี่ยงปัจจัยสำคัญของภาะซึมเศร้าในวัยรุ่น เช่น เศรษฐานะของครอบครัว, การปรับตัวต่อหน้าที่ตามวัย นั่นคือการเรียน ถ้าการเรียนเปลี่ยนแปลงในทางที่เป็นลบ ก็เป็นการเตือนภัย, การแยกตัวออกจากเพื่อนฝูง, ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่รุนแรงขึ้น และ พฤติกรรมทางกฎหมาย เช่น อาชญากรรม อบายมุข

พญ.อัมพร กล่าวว่า สำหรับอาการไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) เป็นโรคทางจิตเวชโรคหนึ่ง ที่เกิดจากสารเคมีในสมองรวน จนเกิดอาการ 2 ขั้ว คือ อารมณ์คึกคัก เรียกว่า ขาขึ้น (Manic) แสดงออกมาทางคำพูด เช่น พูดเยอะ พูดเพ้อเจ้อ พูดเร็วสับสน ไปเที่ยวหรือใช้เงินมากแบบไม่ยั้งคิด มีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข และอีกด้าน คือ อารมณ์รุนแรงมากผิดปกติ เรียกว่า ขาลง (Depressive) ซึ่งอาจมีอาการโรคซึมเศร้า กินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกด้อยค่า ซึ่ง 2 ขั้วนี้จะอยู่ห่างกันในช่วงสัปดาห์ โดยหากเกิดขั้วไหนก็จะกินเวลาประมาณ 1-3 เดือน อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถควบคุมและรักษาได้ด้วยยาของแพทย์ สาเหตุการเกิดโรคไบโพลาร์ จิตแพทย์เชื่อว่ามาจากชีวภาพและพันธุ์กรรม ที่มีความผิดปกติส่งผลให้เกิดภาวะของโรคไบโพลาร์ นอกจากนี้ ยังมีตัวกระตุ้นคือความแปรผันของชีวิต ความเครียด และการไม่สามารถปรับตัวในสังคมได้ ทั้งนี้ โรคไบโพลาร์มีความเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า ซึ่งหากพบอาการไบโพลาร์ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้าได้ ขึ้นอยู่กับขั้วของอารมณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น