ม็อบลูกจ้างยอมถอยกลับ หลังหารือร่วม สธ. ตั้งคณะทำงานร่วมกันแก้ไขปัยหา 5 ข้อเรียกร้อง เริ่มวันที่ 2 มี.ค.นี้ ส่วนการจ้าง พกส.ด้วยเงินงบประมาณอยู่นิกอำนาจ สธ.ต้องมาร่วมกันช่วยทำงาน ยันไม่มีกลับไปแล้วถูกเลิกจ้าง ด้านนักรบผ้าถุงยังปักหลักชุมนุมต่อ ทวงถามเหตุผลย้าย "หมอสุภัทร" ขีดเส้น 9 ก.พ. ยังไม่เคลียร์ ยกระดับชุมนุม ลุยบอยคอตพรรคภูมิใจไทยเขย่าฐานเสียง
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มสหภาพลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย (สลท.) ประกอบด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างเหมาบริการ (รายเดือน-รายวัน) สายสนับสนุนบริการ 56 สายงาน ที่มาเรียกร้องสิทธิสวัสดิการความมั่นคง โดยปักหลักชุมนุมบริเวณหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมา 2 วัน โดยเมื่อช่วง 13.00 น. นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อม นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษก สธ.และหัวหน้าศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ ได้หารือร่วมกับตัวแทน สลท. ทั้งนายโอสถ สุวรรณ์เศวต ประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย (สสลท.) นายวรธันย์ คำมา รองประธาน สลท. เป็นต้น โดยใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 15.20 น. นพ.รุ่งเรือง เป็นตัวแทนออกมาแถลงข่าวถึงข้อหารือ ว่า เรียนว่า รมว.สธ. ปลัด สธ.และผู้บริหารให้นโยบายว่า เราทำเพื่อประโยชน์ประชาชนและคนไข้ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องดูแลบุคลากรให้มีความสุข สวัสดิภาพ และความเท่าเทียม หลังมีการหารือกันอย่างจริงใจ ข้อเสนอทั้ง 6 ที่มีมานั้นต้องขอบคุณยิ่ง โดยในข้อที่ขอให้จ้าง พกส.ด้วยเงินงบประมาณ แทนเงินบำรุง รพ.นั้น เราเห็นด้วย มีความตั้งใจที่จะทำ แต่มีเพียงข้อนี้ที่อยู่ภายนอกอำนาจของ สธ. ซึ่งต้องจัดทำด้วยกระบวนการที่มาทำงานร่วมกัน ส่วนข้อเรียกร้องอีก 5 ข้อ เป็นสิ่งที่ สธ.อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและด้วยเจตนารมณ์ที่จะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด เพราะเป็นลูกน้องของเรา เป็นพี่เพื่อนพ้องที่ร่วมรบกับโควิดจนชนะศึกนี้ได้ โดยข้อเสนอต่างๆ ให้เกิดการดูแลทั้ง 5 ข้อ สธ. ผู้บริหาร และ สลท. จะตั้งคณะทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจริงใจ เจตนารมณ์เดียวกัน ที่จะดูแลพี่น้องสาธารณสุขมีความสุข สวัสดิภาพที่ดี เป็นธรรม อย่างดีที่สุด
"อีก 5 ข้อที่เหลือเราทำทันที ภายในวันที่ 2 มี.ค.นี้ จะเริ่มการประชุมและเร่งดำเนินการทุกอย่างให้ได้คำตอบที่ออกมา จะไม่เป็นการพูดเฉยๆ แต่สิ่งที่ออกมาต้องเกิดขึ้นเป้นรุปธรรม สิ่งไหนแก้ได้ทำได้ต้องเร่งทำ สิ่งไหนที่ต้องร่วมกันทำก็จะร่วมกันทำ ทีมงานที่เข้าไปเจรจาก้ต้องขอบคุณ เราคุยด้วยความเมตตา ปรารถนาดี ดูแลทั้งคนไข้และคนของเรา มีการพูดคุยจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน จึงขอให้เชื่อมั่นในเจตนารมณ์และนโยบายที่เราดูแล ดังนั้น วันนี้เราคุยกันรู้เรื่องหมดแล้ว หลังจากนี้ขอให้ยุติการชุมนุม และเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย เราจะเดินหน้าทำงานอย่างจริงและทำงานร่วมกัน" นพ.รุ่งเรืองกล่าว
หลังกล่าวจบ นายโอสถ ได้ถามว่าผู้ที่มาร่วมชุมนุมเมื่อกลับไปจะยังมีงานทำ ไม่ถูกโดนเลิกจ้างหรือลงโทษ ทำให้ผู้ชุมนุมส่งเสียงออกมาสนับสนุน โดย นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า เรามีเป้าหมายร่วมกัน สิ่งต่างๆ เหล่านั้นจะไม่เกิดแน่นอน หากมีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นขอให้ส่งเข้ามาที่ตนได้เลย ในฐานะ ผอ.รับเรื่องราวร้องทุกข์ และจะไม่มีเรื่องดังกล่าวที่เป็นทางไม่ดี เพราะวันนี้เป็นจุดเริ่มต้น
ด้าน นายโอสถกล่าวว่า เรายอมรับว่าท่านมีความตั้งใจและจริงใจ แต่เราเพลี่ยงพล้ำ หลอกเตะก้านคอมาแล้ว จึงต้องมีข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งมีผู้ลงนาม ทั้ง นพ.พงศ์เกษม นพ.รุ่งเรือง ตน และนายวรธันย์ รวมถึงนายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เป็นพยาน ว่าวันที่ 2 มี.ค.นี้ คณะทำงานแก้ไขปัญหาฯ จะเริ่มขับเคลื่อน ซึ่งจะมีตัวแทนฝั่งสหภาพฯ คือ ตน นายวรธันย์ นายสมใจ ศิริมา รองประธาน สลท. และนายนันทรัตน์ ปัญญามูล เขานุการ สลท. เข้าร่วม หากต่างฝ่ายมีความจริงใจก็ใช้เวลาไม่นาน จะเห็นว่ามีการปรับเปลี่ยนแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันอย่างเรียบร้อย และขออภัย สธ.ที่มีอะไรไปบ้าง ก็เป็นไปด้วยความรู้สึกที่เก็บกดของพี่น้องลูกจ้าง ที่ผ่านมาเราถูกกดขี่มาตลอดเวลา โดยมีคณะทำงานแก้ไขปัญหาลูกจ้าง มีตัวแทนจากพวกเรา 12 เขตสุขภาพ แต่คณะกรรมการชุดนี้ก็ไม่ได้รับการนำเสนอต่อท่านเพื่อมาปรึกษาหารือกัน ต่อไปนี้ก็จะมีเหมือนเดิม เพื่อให้ปัญหาไม่เกิด
ขณะที่นายมานพกล่าวว่า สรส.ได้เดินทางมาให้กำลังใจพี่น้อง สลท. การเจรจาใช้เวลานานเพราะมีหลายเรื่อง จนได้ข้อสรุปเป็นคณะทำงานขึ้นมา ในวันที่ 2 มี.ค.ที่มีการประชุม เราก็จะติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาจริงจัง โดยขอให้มีการแจ้งความคืบหน้าให้พวกเราทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น. ผู้ชุมนุม สลท.ได้ยุติการชุมนุมและทยอยเก็บของเพื่อเดินทางกลับ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมนักรบผ้าถุง ชาวบ้าน อ.จะนะ จ.สงขลา ยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณลานด้านหลังอาคาร 1 สำนักงานปลัด สธ. เพื่อทวงถามเหตุผลและขอให้ยกเลิกการโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ เป็น ผอ.รพ.สะบ้าย้อย โดยนายไวนี สะอุ ผู้แทนภาคีเพื่อนหมอสุภัทรและผู้รักความเป็นธรรม กล่าวว่า เราอยากชี้ให้เห็นว่าการโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปตามธรรมาภิบาลของกระทรวงนี้หรือไม่ เพราะคุณเป็นปลัดกระทรวงที่ต้องดูแลทั้งร่างกาย จิตใจชาวบ้าน แต่เหมาะหรือไม่ที่ทำลายธรรมาภิบาลหลายเรื่อง ทั้งที่เลี่ยงได้ แต่ไม่เลี่ยง แล้วที่ผ่านมาก็ตอบเหตุผลไม่ได้ ตอบให้ชัดหน่อยว่า นพ.สุภัทรผิดอะไร ดังนั้นทางกลุ่มยืนยันว่า จะปักหลักที่ สธ.ต่อไป โดยวันที่ 8 ก.พ. เราจะเปิดเวทีเสวนาโดยนักวิชาการเพื่อสื่อสารให้เห็นถึงเรื่องธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงเหตุผลที่เราต้องออกมาขับเคลื่อนเพราะอะไร ขณะเดียวกันก็ได้ประสานให้พี่น้องเครือข่ายเรามาสมทบในวันที่ 9 ก.พ.นี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของพี่น้องที่ต้องการคำตอบ
"เข้าใจถึงกรณีที่สังคมบางส่วนตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงย้าย นพ.สุภัทรไปไม่ได้ นั่งทับอะไรหรือไม่ เข้าใจถึงการตั้งคำถามนี้ แต่หากยกเหตุผลนี้มาก็ขอให้มีการตรวจสอบอย่างจริงๆ หรือถ้ามีข้อมูลหลักฐาน ก็ตรวจสอบได้เลย ซึ่งเราไม่คัดค้านอยู่แล้ว ดังนั้นหากคำตอบ ตอบมาตรงประเด็น เราก็ยอมรับได้ คนจะนะก็ยินดีให้นพ.สุภัทรไปรพ.สะบ้าย้อยได้" นายไวนีกล่าว
เมื่อถามว่าหากเป็น นพ.ยงยศ ลงมาเป็นกาวใจจะยอมรับหรือไม่ นายไวนี กล่าวว่า ได้ แต่ก็ต้องมีเหตุผลที่เป็นเหตุผลจริงๆ รวมถึงจะเป็นรองปลัด สธ.คนไหนก็ได้ที่จะมาสื่อสาร แต่ต้องมีเหตุผลที่เป็นเหตุผลจริงๆ ที่ยอมรับได้ ทั้งนี้ หากพ้นจากวันที่ 9 ก.พ.ไปแล้ว ยังไม่มีการมาสื่อสารให้เหตุผล เราจะมีการยกระดับเดินทางไปร้องเรียนยังหน่วยงานที่มีระดับสูงขึ้นไป เช่น ทำเนียบรัฐบาล ศาลปกครอง
“ฝากนักการเมืองท่านเองก็ต้องการมวลชน ควรคิดรอบคอบกว่านี้ อย่าสร้างความแตกแยก แล้วพื้นที่สงขลาก็เป็นฐานเสียงของภูมิจไทยด้วย หากสุดท้ายยังเป็นเช่นนี้ เราเองก็จะเดินหน้าบอยคอตพรรคภูมิใจไทย และจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจว่าเหตุใดเราถึงจะไม่เลือกพรรคภูมิใจไทย เชื่อว่าจะเป็นแรงกระเพื่อมที่กระทบกับฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่อื่นๆ แน่นอน” นายไวนี กล่าว