กรมควบคุมโรคเล็งปรับฉีดวัคซีนโควิด 19 เป็นการฉีดวัคซีนประจำปี เน้นในกลุ่มเสี่ยงตามเดิม เผยภาพรวมฉีดแล้ว 146 ล้านโดส สถานการณ์ระบาดลดลงทุกกลุ่ม
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในเวทีเสวนาออนไลน์เรื่อง “ย้อนรอยโอมิครอนกับการใช้วัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นของประเทศไทย” จัดโดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ว่า ตั้งแต่ไทยฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มแรก เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2564 และรณรงค์ให้คนไทยทุกกลุ่มอายุมาฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต จนถึงขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนในภาพรวมแล้ว 146 ล้านโดส โดยไทยรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มแรกจนถึง 100 ล้านโดส ใช้เวลา 10 เดือน ถือว่ารวดเร็วมาก และมีข้อมูลวิจัยยืนยันว่า การฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสดังกล่าวสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ถึง 490,000 คน
สำหรับสถานการณ์การระบาดในปี 2566 สัปดาห์ที่ 5 นั้นสถานการณ์ลดลงทุกกลุ่ม ทั้งผู้ป่วยเข้ารักษาใน รพ. 252 คน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 122 คน ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 78 คน และผู้เสียชีวิต 17 คน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเป็นผู้ไม่ได้รับวัคซีนเลย 8 คน ได้รับเข็มหนึ่ง 1 คน เข็มสอง 3 คน และเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน 5 คน ดังนั้นการฉีดเข็มกระตุ้นสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุจึงเป็นเป้าหมายสำคัญของกระทรวงที่จะค้นหาผู้สูงอายุให้มารับเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ ซึ่งทุกกลุ่มอายุออกมาใช้ชีวิตปกติ และใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว จึงควรที่จะเร่งนำผู้สูงอายุมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งนี้ในปี 2566 กรมควบคุมโรคได้วางแผนการจัดการเรื่องวัคซีน โดยจะปรับให้เป็นการฉีดวัคซีนประจำปี ซึ่งจะเน้นการฉีดกลุ่มเสี่ยงเช่นเดิม