xs
xsm
sm
md
lg

หมอเตือน "ดื่ม-สูบหนัก" ตั้งแต่อายุน้อย ทำลายเซลล์ป้องกันมะเร็ง ดื่มทุก 1 แก้ว อายุสั้นลง 30 นาที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หมอเตือน "ดื่ม – สูบหนัก" ตั้งแต่อายุน้อย เสี่ยงทำลายเซลล์ป้องกันมะเร็ง ชี้ดื่มทุก 1 แก้ว อายุสั้นลง 30 นาที  เปิดใจผู้ที่เคยก้าวพลาด ยัน เหล้า – บุหรี่ ฆ่าคนได้จริง 
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่เดอะฮอลล์ บางกอก กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล, ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดเสวนา “ถอดรหัสมะเร็งกับสุรา : ปัญหาชีวิตคนไทย” เนื่องในโอกาส วันมะเร็งโลก ( 4 ก.พ.ของทุกปี)  ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ไว้อาลัยผู้สูญเสียจากมะเร็ง และให้กำลังใจผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้าย 


นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผอ.สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส. กล่าวว่า ที่ผ่านมามักมีคำถามว่า ทำไมบางคนดื่มหรือสูบเป็นมะเร็ง แต่บางคนกลับไม่เป็น ตรงนี้ต้องเข้าใจกลไกการเกิดมะเร็งว่า เป็นเซลล์ของร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือกลายพันธุ์ของสารพันธุกรรม หรือเป็นเซลล์กบฏที่อยู่ในร่างกาย จากการถูกทำร้ายซ้ำๆ โดยสารก่อมะเร็ง หนึ่งในนั้นคือเหล้า บุหรี่ หากคนที่ยังอายุน้อย ร่างกายแข็งแรง อาจจะไม่เกิดมะเร็งทันที แต่อวัยวะจะค่อยๆ เสียหาย เช่น ตับ ที่มีหน้าที่ขับของเสีย ถึงไม่เป็นมะเร็งตับทันที แต่จะค่อยๆ เกิดไขมันแทรก กลายเป็นโรคตับแข็ง ร่างกายเสื่อมโทรมจนไม่สามารถทำลายสารก่อมะเร็งได้ตามปกติ ทำให้สารก่อมะเร็งเข้ามาโจมตีร่างกายได้มากและเร็วขึ้น

นพ.พงศ์เทพ กล่าวอีกว่า เหล้า บุหรี่ เป็นสารเสพติดที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้ในหลายๆ อวัยวะ เช่น แอลกอฮอล์ จะก่อมะเร็งตับมากที่สุด รองลงมาคือ มะเร็งทางเดินอาหาร ตลอดเส้นทางที่แอลกอฮอล์ผ่านเข้าไปในร่างกาย ตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะ ลำไส้ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ก่อมะเร็งส่วนบุหรี่จะก่อมะเร็งปอดและมะเร็งทางเดินหายใจ ตั้งแต่ช่องปาก หลอดลม กล่องเสียง จากควันบุหรี่ และยังส่งผลโจมตีไปยังอวัยวะที่พยายามกำจัดสารมะเร็งออกจากร่างกาย เช่น ตับ กระเพาะปัสสาวะ

"เรื่องนี้ต้องเตือนกัน เพราะปกติขนาดเราไม่ได้ตั้งใจจะรับสารก่อมะเร็ง แต่เราก็ถูกบังคับให้รับอยู่แล้วจากสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือการรับสารก่อมะเร็งโดยตั้งใจและพยายามจะเสพเข้าไปเพื่อหาความสุขสำเร็จรูปจากเหล้า บุหรี่ แบบนี้ยิ่งรุนแรงเข้าไปอีก มีงานวิจัยพบว่าการดื่มแอลกอฮอล์ทุกๆ 1 แก้วที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ชีวิตสั้นลง 30 นาทีลองนึกดูว่า ถ้าดื่มทุกวัน บางคนคิดว่าจะอยู่ยืนยงไม่เป็นไร ร่างกายแข็งแรงเลยดื่มหรือเสพหรือสูบไป ก็จะทำให้อายุสั้นลงเป็นการใช้พลังชีวิตที่เหลืออยู่อย่างฟุ่มเฟือย ยอมตายเร็วขึ้นเพื่อเสพความสุขสำเร็จรูป โดยเฉพาะในโลกปัจจุบันคนเครียดมากขึ้น แสวงหาความสุขสำเร็จรูปมากขึ้น" นพ.พงศ์เทพ กล่าว


ศ.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ผอ.ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า ข้อมูลปี 2564 จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง โดยกลุ่มนักดื่มหนักที่ดื่มเบียร์ 5 กระป๋อง/วัน เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งช่องปาก และมะเร็งหลอดอาหาร 5 เท่า มะเร็งกล่องเสียง 2.6 เท่า มะเร็งตับ 2 เท่า มะเร็งเต้านม 1.6 เท่า และมะเร็งลำไส้ใหญ่ 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ไม่ดื่ม ส่วนกลุ่มผู้ดื่มปานกลางที่ดื่มเบียร์ 2 กระป๋อง/วัน เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งช่องปาก 1.8 เท่า มะเร็งเต้านม 1.23 เท่า และมะเร็งลำไส้ใหญ่ 1.2 เท่า ของผู้ที่ไม่ดื่ม และงานวิจัย meta-analysis ปี 2020 ในวารสาร Alcohol and Alcoholism ได้รวบรวมงานวิจัย 22 ชิ้นในอดีต พบว่าการดื่มแอลกอฮอล์ทุก 1 หน่วยดื่มมาตรฐาน หรือ10 กรัม/ต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงเกิดมะเร็งเต้านม 10% จึงกล่าวได้ว่า แอลกอฮอล์เป็นสารก่อมะเร็ง ถึงดื่มปริมาณน้อยก็เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งหลายชนิด และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณที่ดื่ม และการดื่มไวน์แดงไม่ได้ช่วยป้องกันมะเร็ง ดังนั้น การไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นการดีที่สุด


น.ส.วรารัตน์ อมแสง แกนนำชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม กรุงเทพฯ ซึ่งมีญาติเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีญาติเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปกติน้องชายดื่มเบียร์เล็กน้อย แต่หลังจากแม่เสียชีวิตกลายเป็นคนดื่มหนัก ไม่กลับบ้าน งานการไม่ทำ ร่างกายย่ำแย่ อาเจียนเป็นเลือด ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ และเนื่องจากตอนนั้นน้องชายติดแอลกอฮอล์จึงต้องหาซื้อให้ดื่มต่อ แต่สุดท้ายต้องเข้าห้องไอซียูเพราะมีภาวะตับแข็ง ไม่สามารถขับเหงื่อและของเสียได้ แม้ยังพอรักษาและกลับมาใช้ชีวิตได้ โดยค่อยๆ ลดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่เเต่โควิด-19 ระบาด รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวส์ ทำให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ ทำให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในที่สุด ขอเตือนนักดื่มรุ่นใหม่ หากเลิกได้ก็ขอให้เลิก เพราะมันฆ่าเราได้จริงๆ

นางบี (นามสมมติ) กล่าวว่า ส่วนตัวเคยดื่มเหล้าเบียร์ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เพราะเครียดเรื่องครอบครัว หลังจากนั้นเลิกเรียนแล้วเข้ามาหางานทำกับเพื่อน หลังเลิกงานดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำ ยิ่งมีรายได้มากขึ้น ยิ่งดื่มมาก จนอายุประมาณ 50 ปี เริ่มมีไข้ รู้สึกหนาวจากข้างใน คิดว่าเป็นวัยทอง แต่ตรวจแล้วไม่ใช่ เริ่มกินอะไรไม่ค่อยได้ แน่นท้อง ท้องอืด และรักษาที่โรงพยาบาลแห่งแรกอยู่ประมาณ 2 ปี ก่อนเปลี่ยนมาตรวจที่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 พบว่าเป็นท่อน้ำดีอุดตัน ต้องผ่าตัดใส่ขดลวด กลับบ้านได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ต้องกลับไปโรงพยาบาลอีกเพราะปวดท้องหนัก ตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดี ต้องผ่าตัดถุงน้ำดีทิ้ง ก่อนจะพบมะเร็งถุงน้ำดีภายหลัง กระจายไปที่ปอดกับตับแล้ว แพทย์บอกว่าสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์นาน และกินปลาร้าดิบ จึงเข้าสู่กระบวนการรักษาจริงจัง ยอมรับว่าตอนแรกที่รู้ว่าเป็นมะเร็งหมดหวังและคิดทำร้ายตัวเอง แต่ได้กำลังใจจากลูก ทำให้ฝ่าฟันมาได้ หลายครั้งที่คิดว่า ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงไม่ดื่ม ขอให้เรื่องของตนเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์






กำลังโหลดความคิดเห็น