จิตแพทย์ไทยไม่เพียงพอ มี 800 คน พบอัตราส่วนต่อประชากร 1 ต่อแสน บางส่วนอยู่ภาคเอกชน บางส่วนเลิกทำงานแล้ว จิตแพทย์เด็กยิ่งน้อย ไม่ทันปัญหาเด็กถูกบูลลี คาดปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มอีก แต่ผลิตไม่ทัน ครม.อนุมัติงบ 686 ล้านบาทผลิตทีมสหวิชาชีพจิตเวช 5 ปี แต่ยังไม่พอ จ่อของบกลางเพิ่มอีกร้อยล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณี ครม.อนุมัติงบ 686 ล้านบาท สำหรับโครงการพัฒนาเครือข่ายระบบด้านการดูแลสุขภาพจิต ระยะเวลา 5 ปี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 –2570 ว่า ปัจจุบันจิตแพทย์มีจำนวนน้อยมาก ทั้งประเทศมีประมาณ 800 คน สัดส่วนจิตแพทย์ 1 คน ดูแลประชากรเกิน 1 แสนคน และจำนวนนี้ส่วนหนึ่งปฏิบัติงานในภาคเอกชน ส่วนหนึ่งไม่ได้ทำหน้าที่จิตแพทย์แล้ว ดังนั้น เหลืออยู่ในภาครัฐที่ช่วยกันแบกจริงๆ อัตราน่าเป็นห่วงมาก บางจังหวัดไม่มีเลย โดยเฉพาะจิตแพทย์เด็กมีน้อยมาก อย่างเด็กถูกบูลลี 1 คน กว่าจะได้พบจิตแพทย์ต้องรอนานถึง 6 เดือน จนมีคำล้อเลียนว่า “ลงทะเบียนชาตินี้ ได้ตรวจชาติหน้า” ทั้งๆ ที่ปัญหาตอนนี้คูณสิบ คูณร้อย
"องค์การอนามัยโลกมีคำแนะนำสัดส่วนที่เหมาะสม แต่เราคงไม่มีทางไปถึง จึงมองว่าทำอย่างไรจึงจะมีเยอะที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ต่อให้เรามีจิตแพทย์เพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า จากปัจจุบันที่ผลิตได้ปีละ 50 คน เราก็ยังต้องผลิตเช่นนี้อีกกว่า 10 ปี ถึงจะเพียงพอในการดูแลประชาชน" พญ.อัมพรกล่าว
พญ.อัมพร กล่าวว่า สาเหตุที่มีจิตแพทย์น้อยนั้น เพราะการขับเคลื่อนเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต ยังไม่สมดุล แพทย์ฝ่ายกายมีคนสนใจเยอะผลิตได้เยอะ แต่ด้านจิตใจผลิตเป็นแบบต้วมเตี้ยมมาโดยตลอด ความสนใจมาเรียนรู้ไม่มาก ระบบการผลิต อุดหนุน ผลักดันเชิงนโยบายยังมีไม่เพียงพอ เลยสะสมมาเรื่อยๆ ซึ่งปัญหาสุขภาพจิตคาดว่า จะเพิ่มอีกหลายเท่า ขณะที่การเพิ่มจิตแพทย์ต้องใช้เวลา และระบบการดูแลสุขภาพจิตอื่นๆ ไม่ได้ราบรื่นนัก เช่น ดูแลเชิงรุกในชุมชนและต่อเนื่อง ยังมีข้อจำกัดในสังคม สวัสดิการ อย่างค่าตอบแทนสายด่วน 1323 ซึ่งเป็นงานเชิงลึก ใช้เวลานาน แต่ สปสช.จ่ายเหมือนคนโทรมา “ฮัลโหล ยาตัวนี้กินก่อนหรือหลังอาหาร” เทียบกับการโทรมาปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาการฆ่าตัวตายได้ค่าตอบแทนเท่ากัน ดังนั้น ปัญหาจิตเวชเวลานี้ จึงเป็นรูปแบบที่ยิ่งทำ ยิ่งเข้าเนื้อ หน่วยงานมีข้อจำกัดเรื่องงบ โอกาสการพัฒนามีจำกัด ทางเลือกในการใช้ยาก็น้อย สรุปก็เป็นไปในทิศทาง “หมอมีน้อย ทำงานก็ยาก แถมจนอีกต่างหาก”
พญ.อัมพรกล่าวว่า ส่วนที่ ครม.อนุมัติงบดังกล่าว ก็ยังต้องพิจารณางบประมาณภายในกระทรวงสาธารณสุขก่อน โดยปีแรกได้ประมาณร้อยกว่าล้านบาท ซึ่งได้หารือร่วมกับปลัด สธ.แล้วว่าอาจจะมีการเสนอ ครม.ของบกลางเพิ่มอีก ราวๆ ร้อยล้านบาท สำหรับแผนการผลิตจะเป็นแบบรวมสหวิชาชีพรวม 590 คนต่อปี ได้แก่ 1.จิตแพทย์ 30 คนต่อปี 2.พยาบาลเฉพาะทางสุขภาพจิต 300 คนต่อปี 3.พยาบาลเชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและจิตเวช (ป.โท) 20 คนต่อปี 4.นักจิตวิทยาคลินิก 80 คนต่อปี 5.นักสังคมสงเคราะห์เฉพาะทางจิตเวช 80 คนต่อปี 6.นักกิจกรรมบำบัดเฉพาะทาง 50 คนต่อปี และ 7.เภสัชกรจิตเวช 30 คนต่อปี