xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ยันเดินหน้าถ่ายโอน รพ.สต. แม้บุคลากรบางส่วนขอย้ายกลับ ชี้เป็นผลประเมินต้องแก้ปัญหาร่วมกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองปลัด สธ. ยันเดินหน้าถ่ายโอน รพ.สต.ตามกฎหมาย ไม่มีการชะลอหรือยกเลิก แต่ต้องติดตามประเมินผล แจงประเด็นบุคลากร รพ.สต.อยากย้ายกลับกระทรวง เป็นข้อค้นพบจากการสำรวจ จะนำมาหารือแก้ไขปัญหาร่วมกันกับ อบจ.และ รพ.สต. พบคู่มือแนวทางถ่ายโอนเร่งรีบดำเนินการ ไม่ได้ผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีบุคลากร รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บางส่วน ประสงค์ขอย้ายกลับ ว่า การถ่ายโอนสถานีอนามัยฯ และ รพ.สต. เป็นไปตาม พ.ร.บ.การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งต้องขอย้ำว่า สธ.เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจฯ และเชื่อว่าการถ่ายโอนภารกิจไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนในอนาคต อย่างไรก็ตาม ช่วงเปลี่ยนผ่านย่อมจะเกิดปัญหาและอุปสรรค โดยเฉพาะความไม่พร้อมทั้งคนรับและคนถ่ายโอน และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงประชาชนได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ สธ.ให้ความสำคัญที่สุด คณะกรรมการฯ จึงมีการติดตามประเมินผลว่า ถ่ายโอนแล้วมีปัญหาอุปสรรคที่ต้องแก้ไขหรือไม่อย่างไร ทำให้พบข้อมูลต่างๆ เช่น ความไม่พร้อมของการถ่ายโอน ปัญหาที่เกิดจากการทำงาน หรือความต้องการอยากย้ายกลับกระทรวง เป็นต้น

นพ.พงศ์เกษมกล่าวว่า สธ.ยังคงเดินหน้าการถ่ายโอนภารกิจต่อไปตามกฎหมายและขั้นตอนกระบวนการที่คณะกรรมการถ่ายโอนฯ กำหนด เท่าที่มีอำนาจตามกฎหมาย ไม่ได้มีการชะลอหรือยกเลิกแต่อย่างใด ขณะเดียวกันก็จะนำข้อมูล ข้อเสนอต่างๆ จากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่มาหารือกันในคณะกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งในส่วนของ สธ. อบจ. และ รพ.สต. รวมทั้งประเด็นปัญหาขัดกันทางกฎหมายที่มีหลายฉบับต้องแก้ไข เพื่อให้การถ่ายโอนภารกิจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่มีการถ่ายโอนภารกิจ ต.ค. 2565 จนถึงขณะนี้ สธ.ได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและ ผอ.รพ.ทุกแห่ง ช่วยสนับสนุน รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไป อบจ. อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนหรือหากจะมีก็ให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด

“อุปสรรคอย่างหนึ่งของการถ่ายโอนในระดับการจัดการส่วนกลาง คือ การประชุมของชุดอนุกรรมการ
ที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ สธ.ต้องติดตามทวงถามบันทึกการประชุมอยู่ตลอด เพื่อนำมติที่ประชุมมารับรอง เพื่อเป็นฐานการใช้อำนาจในการออกมติต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการปฏิบัติที่เกิดประโยชน์สุขของประชาชนและระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืน เนื่องจากมี พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้อง และลำดับชั้นของการใช้กฎหมายประกอบอยู่มาก นอกจากนั้นคู่มือแนวทางการถ่ายโอนฯ ก็เร่งรีบดำเนินการ และไม่ได้ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ซึ่งสิ่งนี้ในทางการใช้ระเบียบกฎหมายปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป” นพ.พงศ์เกษมกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น