กรมควบคุมโรคเตือนช่วง "วันเด็ก" และ "ตรุษจีน" ส่อเจอป่วยอาหารเป็นพิษเป็นกลุ่มก้อนเพิ่ม เผย 2 เดือนที่ผ่านมาพบ 8 เหตุการณ์ ส่วนใหญ่เกิดในโรงเรียน กินอาหารปรุงสุกไว้นาน ไม่อุ่นซ้ำ แนะวิธีแจกจ่ายอาหารช่วงเทศกาลลดความเสี่ยง
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 8 – 14 ม.ค. 2566 คาดว่าในช่วง ม.ค.จะมีวันเด็กแห่งชาติ และเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีการแจกจ่ายอาหาร ขนม และการจัดเลี้ยงรวมกลุ่ม อาจทำให้มีความเสี่ยงพบผู้ป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษเป็นกลุ่มก้อนเพิ่มขึ้น โดยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ คอแห้งกระหายน้ำ และอาจมีไข้ได้ ในรายที่มีอาการถ่ายอุจจาระมากๆ อาจมีภาวะช็อกหมดสติ การช่วยเหลือเบื้องต้นควรให้จิบสารละลายเกลือแร่ ORS บ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
"จากการเฝ้าระวังโรคในปี 2565 พบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจำนวน 70,010 ราย จาก 77 จังหวัด ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ อายุ 15-24 ปี ผู้ป่วยกระจายทุกภูมิภาค โดยภาคกลางพบมากสุด ขณะที่ช่วง พ.ย.-ธ.ค.2565 รับแจ้งเหตุการณ์อาหารเป็นพิษเป็นกลุ่มก้อน 8 เหตุการณ์ ส่วนใหญ่เกิดในโรงเรียน สาเหตุจากอาหารปรุงสุกไว้นาน ไม่ได้อุ่นซ้ำ" นพ.ธเรศกล่าว
นพ.ธเรศกล่าวว่า การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติหรือตรุษจีน แนะนำว่า ควรเลือกซื้ออาหารที่สด สะอาด รูป รส กลิ่น สี ไม่ผิดปกติ ล้างทำความสะอาดก่อนนำมาปรุงด้วยความร้อนให้สุกทั่วถึง ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่กินอาหารดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ อาหารที่ปรุงไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนกิน เลือกอาหาร น้ำและน้ำดื่มที่สะอาดมีเครื่องหมาย อย. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งก่อนปรุงและกินอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ สัมผัสสิ่งสกปรก หากอาหารมีรูป รส กลิ่น สี เปลี่ยนไป ไม่ควรนำมากินต่อ ผู้ประกอบอาหารยึดหลักสุขอนามัยผู้ปรุงและสุขาภิบาลอาหาร