สธ.เผย "อภัยภูเบศร" ใช้ศาสตร์แผนไทยและสมุนไพร ดูแลสุขภาพ “สร้างงาน สร้างอาชีพ พึ่งพาตนเอง” ปี 2565 มีรายได้จากบริการแผนไทยกว่า 40 ล้านบาท จำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรกว่า 600 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 375 คน ชู 6 เมนูอาหารเป็นยาจากโคกหนองนาช่วยระบบลำไส้ดี
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของ สธ. คือ Health for Wealth นำเรื่องของสุขภาพโดยเฉพาะการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย มาใช้ขับเคลื่อนสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เป็น รพ.ศูนย์ที่มีความโดดเด่นด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร มีการพัฒนาและยกระดับงานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร 3 ประเด็น คือ 1.ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ผ่านกิจกรรมและบริการของ “อภัยภูเบศร เดย์ สปา” และ “ภูมิภูเบศร” 2.ผลิตยาและสมุนไพรไทยสู่สากล โดยโรงงานผลิตยาสมุนไพรและมูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์กับเกษตรกรในประเทศ และ 3.การใช้นวัตกรรมสุขภาพและการส่งออก โดยอบรมความรู้เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน และวิจัยพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรและบริการ โดยมีการฝึกอบรมภายใต้แนวคิด “สร้างงาน สร้างอาชีพ พึ่งพาตนเอง”
“ในปีงบประมาณ 2565 รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีผลงานเชิงบวกจากการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โดยมีรายได้รวมจากการให้บริการแผนไทย 40 ล้านบาท ส่วนมูลนิธิฯ มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร 600 ล้านบาท มีการสั่งซื้อสมุนไพรจาก 8 กลุ่มเกษตรกร 2.4 แสนบาท จาก 11 กลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ 32.6 ล้านบาท มีผู้ผ่านการอบรมพัฒนาสู่ผู้ประกอบการ 70 คน และเกิดการจ้างงานด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยใน จ.ปราจีนบุรี 375 คน” นพ.โอภาสกล่าว
ด้าน ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วย ผอ.ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า รพ.มุ่งเน้นดูแลแบบองค์รวมโดยใช้หลัก "3 สมดุลสุขภาพ" คือ เจ้าเรือน โครงสร้าง และระบบขับถ่าย โดยงานแพทย์แผนไทยจะให้การดูแลเชิงป้องกัน รักษา ฟื้นฟู และส่งเสริมสุขภาพครอบคลุมเป็นองค์รวม ด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทยและสมุนไพร ส่วนการตรวจรักษามีหัตถการทางการแพทย์แผนไทยและคลินิกหัตถเวชศาสตร์ มุ่งเน้นบริการรักษาเฉพาะโรคอย่างตรงจุด ผ่านหัตถการที่หลากหลาย เช่น เผายา พอกยา กักน้ำมัน เป็นต้น สำหรับส่งเสริมสุขภาพมีการพัฒนาเพื่อรองรับกับสถานการณ์สุขภาพปัจจุบันและเทรนด์สุขภาพ เช่น การดูแลหลังติดเชื้อโควิดด้วยการใช้หัตถการทางการแพทย์แผนไทยและการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบ, โปรแกรม Deep Sleep ปรับสมดุลการนอนให้มีคุณภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีองค์ความรู้และยาสมุนไพร, โปรแกรมการดูแลมารดาหลังคลอด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพมารดาให้กลับมาเป็นปกติพร้อมดูแลบุตร
นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ Health & Wellness Tourism อบรมเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรภาคประชาชนเพื่อการพึ่งตนเอง เช่น เรื่องอาหารเป็นยา โคกหนองนา “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศ” เป็นแหล่งรวบรวมพืชสมุนไพรกินได้กว่า 500 ชนิด เป็นโมเดลความยั่งยืนทางธรรมชาติ เพื่อความมั่นคงทางยา อาหารและสุขภาพ มีการนำเสนอเมนูอาหารที่ดูแลระบบท้องไส้ ได้แก่ 1.ข้าวไรซ์เบอร์รี อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีเส้นใยสูง จึงช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2.ทอดมันใบบัวอ่อน ซึ่งใบบัวอ่อนมีสารที่มีคุณสมบัติทำให้หลับสบาย คลายเครียด คนปราจีนบุรีนิยมรับประทานเป็นผักสด ผักจิ้มน้ำพริก ใส่แกงคั่ว เมื่อนำมาผสมกับทอดมันจะช่วยลดความขม ทำให้กินได้ง่ายขึ้น
3.ยำผักเป็ดแดงไก่ฉีก โดยต้นผักเป็ดแดง มีสรรพคุณฟอกและบำรุงโลหิต ในศรีลังกาใช้ต้มเป็นยาแก้ไข้และเป็นอาหารบำรุงของแม่ลูกอ่อน 4.ห่อหมกใบยอ โดยใบยออ่อนมีรสขมเล็กน้อย ช่วยลดความร้อนในร่างกายและมีแคลเซียมสูง 5.แกงส้มผักรวม เป็นเมนูไขมันต่ำ ใยอาหารสูง ดีต่อระบบขับถ่าย รสเผ็ดร้อนจากเครื่องแกงช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย และ 6.เฉาก๊วย แปะก๊วย รากบัว โดยรากบัวมีรสหวาน มีฤทธิ์เย็น ช่วยบรรเทาอาการร้อนในและกระหายน้ำ