ปลัด สธ.เผย รพ.ในสระแก้วรักษาผู้บาดเจ็บเหตุเพลิงไหม้ "บ่อนปอยเปต" 32 ราย เป็นอาการสีแดง 13 ราย สีเหลือง 3 ราย และสีเขียว 16 ราย กำชับ รพ.เตรียมพร้อมดูแลเต็มที่ และให้ รพ.จังหวัดใกล้เคียงเตรียมสนับสนุน ประสานเครือข่ายหน่วยดูแลผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก สำรองเตียงว่าง
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่คาสิโน แกรนด์ไดมอนด์ ปอยเปต กัมพูชา เมื่อช่วงเวลา 00.58 น. วันที่ 29 ธันวาคม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีการส่งผู้บาดเจ็บเข้ามารับการรักษาในจ จ.สระแก้ว ประเทศไทย ว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวจาก นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว แล้ว โดยข้อมูลเมื่อเวลา 08.20 น. ได้รับการประสานให้ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บจำนวน 32 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยสีแดง 13 ราย สีเหลือง 3 รายและสีเขียว 16 ราย นำส่งรักษา รพ.ต่างๆ ในจังหวัดสระแก้ว ดังนี้
รพ.ค่ายสุรสิงหนาท ผู้ป่วยสีแดง 6 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ ส่งต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช (รพร.) สระแก้ว และสีเขียว 3 ราย, รพ.อรัญประเทศ ผู้ป่วยสีแดง 5 ราย และสีเหลือง 2 ราย, รพ.วัฒนานคร ผู้ป่วยสีแดง 2 ราย ส่งต่อ รพร.สระแก้ว และสีเขียว 2 ราย, รพ.โคกสูง ผู้ป่วยสีเหลือง 1 ราย และสีเขียว 8 ราย และ รพ.เกษมราษฎร์ อรัญประเทศ ผู้ป่วยเขียว 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นคนไทย
นพ.โอภาสกล่าวว่า ทีมบุคลากรทางการแพทย์ได้ให้การดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และได้กำชับ รพ.ทุกแห่งใน จ.สระแก้วติดตามสถานการณ์เพื่อเตรียมพร้อมรับผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และให้ รพ.ในจังหวัดใกล้เคียงเตรียมให้การสนับสนุนหากได้รับการร้องขอ พร้อมประสานหน่วยดูแลผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวกของ รพ.ระยอง รพ.ชลบุรี รพ.สรรพสิทธิประสงค์ รพ.นพรัตน์ราชธานี รพ.ราชวิถี รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ และ รพ.วชิรพยาบาล สำรองเตียงว่างรองรับหากมีผู้บาดเจ็บรุนแรงอีก 16 เตียง
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวันนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงสาหัส เบื้องต้น 32 ราย โดยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมี รพ.สังกัด สธ.อยู่ใกล้เคียง ตนได้มอบหมายให้ปลัดสธ. ประสานไปยัง รพ. ต่างๆ ให้เตรียมความพร้อมรับผู้บาดเจ็บ และจัดเตรียมระบบส่งต่อกรณีผู้ป่วยสาหัส ให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยจะต้องให้การดูแลทั้งคนไทยและชาวต่างชาติตามหลักมนุษยธรรม ให้ทุกคนได้รับความปลอดภัย ให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถานพยาบาล เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดประสิทธิภาพสูงสุด