เปิดต้นแบบ คลินิกภาค NGO ดูแลผู้ป่วยเอชไอวี โชว์ทีม UNAIDS ศึกษางานพื้นที่เชียงใหม่ ชูอุดช่องบริการภาครัฐ ดูแลช่วงกลางคืน รุกกลุ่มเป้าหมายหลากหลายทางเพศ ให้บริการครบคลุมครบวงจร
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 51 มีการลงพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อดูการรักษาผู้ป่วยเอชไอวีที่ดำเนินการโดยคลินิกเทคนิคการแพทย์แคร์แมทเชียงใหม่ (CAREMAT) และเอ็มพลัสสหคลินิกเชียงใหม่ (M PLUS) ซึ่งเป็นหน่วยบริการภาคประชาสังคมที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อด้านการตรวจเอชไอวีในระบบ สปสช. ซึ่งยกระดับจากองค์กรที่ทำงานด้านส่งเสริมป้องกัน เช่น ค้นหาและกระตุ้นให้ผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง มาเป็นหน่วยบริการที่ให้บริการอย่างครอบคลุมตั้งแต่ตรวจคัดกรอง ให้คำปรึกษา จนถึงการรักษาและติดตาม
ด้านนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส กล่าวว่า บทบาทของเอ็มพลัสสหคลินิก คือ ให้บริการแบบครบจบที่เดียว (One Stop Service) ตั้งแต่ตรวจเชื้อเอชไอวีรู้ผลภายใน 1 ชั่วโมง ใช้ระบบการแพทย์ทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อพิสูจน์ยืนยันการจ่ายยา และมีจิตแพทย์ดูแลสุขภาพจิตให้ผู้ป่วย จัดบริการเชิงรุกตามงานต่างๆ โดยใช้รถ HIV Mobile Testing Van นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนยังสามารถเข้าถึงและเข้าใจเงื่อนไขที่จะเอื้อให้กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มชายรักชาย และสาวประเภทสอง ตัดสินใจมารับการตรวจรักษามากขึ้นด้วย มีบริการส่งเสริมป้องกันโรค เช่น แจกถุงยางอนามัย จัดอบรมให้ความรู้ในสถานศึกษา
“เอ็มพลัสเป็นองค์กรแรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยส่งต่อเทคนิคการแพทย์ของ สปสช. ตั้งแต่ปี 2562 เลยสามารถเบิกจ่ายค่าตรวจเอชไอวี และให้คำปรึกษาได้ เป็นข้อดีให้บริการทั้งกลุ่มเป้าหมายหลักและประชากรทั่วไปได้ รวมถึงช่วง ก.ค.ที่ผ่านมาได้จดทะเบียนเป็นโพลีคลินิก เพิ่มบริการด้านเวชกรรม ในอนาคตวางแผนจะเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในระบบด้วยเช่นกัน ” ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส กล่าว
นายศตายุ สิทธิกาน ผู้จัดการองค์กรแคร์แมท กล่าวว่า ในปี 2565 แคร์แมทขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการส่งต่อเฉพาะด้านเอชไอวี ฯ ในระบบ สปสช. ให้บริการตั้งแต่ให้ข้อมูลป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประเมินความเสี่ยง ตรวจด้วยห้องปฏิบัติการและประสาน รพ.ในพื้นที่เพื่อให้ผู้ป่วยเอชไอวีเข้าสู่กระบวนการรักษา จุดเด่นคือการสร้างความเป็นส่วนตัวให้ผู้รับบริการ มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) จองตรวจออนไลน์ผ่าน CAREMAT OPD Application ก่อนได้ รวมถึงมีการติดตามอาการผ่านไลน์แอปพลิเคชัน
