อธิบดีกรมแผนไทย ชี้ตัดมาตรา 3 ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ไม่กระทบสถานะ ยังเป็น "พืชสมุนไพร" เพราะตัดออกจากยาเสพติดแล้ว แต่อาจกระทบความมั่นใจ ระบุหากเป็นยาเสพติดกระทบทั้งการศึกษาวิจัยและผู้ประกอบการ ถอดสัญญาณคำสัมภาษณ์ "อนุทิน" ไม่ชงกลับเป็นยาเสพติดแล้ว
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติตัดมาตรา 3 เรื่อง “กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด” ออกจากร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ว่า เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบอะไร ยังไม่ถือว่ากัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติด แต่จากที่ฟังการถกในที่ประชุม ก็มีคำถามว่าแล้วกัญชาจะมีสถานะเป็นอะไร ก็ต้องไปว่ากันต่อ แต่ที่มีการเปรียบเทียบกับ “กระท่อม” ตอนนี้กระท่อมถือเป็นพืชชนิดหนึ่ง แต่เนื่องจากยังมีฤทธิ์เสพติดก็จำเป็นต้องมีกฎหมายออกมาดูแล แต่ไม่ได้ทำให้กลับไปเป็นยาเสพติด จึงไม่น่าจะกระทบกับการเดินหน้าเรื่องกัญชาไปก่อนหน้านี้ แต่อาจกระทบในแง่ความกังวล ความไม่มั่นใจมากกว่า วันนี้กัญชายังถือเป็นพืชสมุนไพร
ส่วนการจะกลับไปเป็นยาเสพติดนั้น เท่าที่ทราบ คณะกรรมการยาเสพติดของ อย. ต้องมีการพิจารณาและเสนอกลับเข้าไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งก็ย้อนกลับไปทางเดิม แต่ถ้าให้กลับไปเป็นยาเสพติดการควบคุมมีมากขึ้น ก็จะมีผลกระทบทั้งหมด ทั้งผู้ประกอบการที่มีการเดินหน้าเรื่องกัญชาไปแล้ว การศึกษาวิจัยต่างๆ ทำได้แต่ยากลำบากขึ้น อาจทำให้คนศึกษาวิจัยกัญชาลดลง ซึ่งเรื่องนี้จะเอาไปเปรียบเทียบตัวอื่นไม่ได้ เช่น มอร์ฟีน หรือฝิ่น ที่ไม่ได้ต้องการการศึกษาว่าจะเอาไปใช้อะไรอีก แต่กัญชายังมีอีกเยอะที่เรายังไม่รู้ ยังต้องการการศึกษาวิจัยถึงประโยชน์และการรักษา ว่าจะเอามาใช้รักษาโรคใดบ้าง ในหลอดทดลองเป็นเช่นนี้ แล้วในคนหรือคนไข้เป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่มีคำตอบ
"เรื่องพวกนี้ต้องการเวลาในการศึกษา หากเอากลับไป เห็นว่าจะทำให้เสียโอกาส ถามว่าไม่มีกฎหมายได้หรือไม่ ก็คงไม่ได้ ขนาดบุหรี่ยังมีกฎหมายมาควบคุม แล้วทำไมกัญชาจะไม่มี อยากเรียกร้องว่าเข้าใจทุกคนที่กังวล แต่ก็มีหน้าที่ของคนที่เกี่ยวข้องที่ควรจะมีกฎหมายออกมา ถ้ากังวลประเด็นใด มีข้อมูลจากประชาชนประเด็นใดก็เอามาเขียนในกฎหมาย ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของสภาที่จะยกเลิกหรือเพิ่มตรงไหน คิดว่าถ้ามีเหตุผลเพียงพอ และโน้มน้าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยก็น่าจะทำให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งเห็นพูดถึงข้อกังวล แต่ไม่เห็นมีข้อเสนอที่จะไปแก้อะไร" นพ.ธงชัยกล่าว
นพ.ธงชัยกล่าวว่า การแก้กฎหมายให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด คำถามคือใครจะเป็นผู้เสนอ ถ้าฟังจากที่รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. เคยให้สัมภาษณ์ ก็แปลว่าคณะอนุกรรมการยาเสพติดของ อย. ต้องเสนอมาที่ รมว.สธ.ลงนาม ซึ่งท่านประกาศชัดว่าถ้าท่านยังอยู่ก็ไม่มีการลงนาม เรื่องนี้อาจจะต้องสอบถามไปที่อย. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ สังคมต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกสักระยะ แต่ก็ต้องระมัดระวัง ย้ำว่ากัญชาต้องมีกฎหมายออกมาดูแล จะลอยมาเดี่ยวๆ เหมือนพืชผักสวนครัวไม่ได้ ต้องมีกฎหมายกำกับ