รองปลัด สธ.ยันถ่ายโอน รพ.สต.ยึดถูกต้องตาม กม. สสจ.-อบจ.ในพื้นที่ต้องพร้อม หารือทบทวนติดตามให้ได้ข้อตกลงร่วมกันก่อนลงนามที่เหลืออีก 9 จังหวัด 331 แห่ง
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความก้าวหน้าการถ่ายโอนภารกิจ สอน.และ รพ.สต.ให้แก่ อบจ. ว่า ส่วนกลางระดับอนุกรรมการถ่ายโอนฯ ได้ทำความชัดเจนหลักการและหลักเกณฑ์ถ่ายโอนรอบที่ 2 ปี 2567 โดย 1. บุคลากรที่จะถ่ายโอนให้เป็นไปตามคู่มือการถ่ายโอนฯ และ 2.งบประมาณ มี 2 ส่วน คือ fix cost ของ รพ.สต. ตามขนาด S, M, L ซึ่งสำนักงบประมาณดำเนินการ และงบประมาณหลักประกันสุขภาพ (UC) ที่ รพ.สต.เคยได้รับ หน่วยงานในระดับพื้นที่ คือ สสจ. และ อบจ. ต้องเจรจาหารือตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงบในส่วนผู้ป่วยนอก และงบส่งเสริมป้องกันสุขภาพให้เกิดข้อตกลงทั้งสองฝ่าย
นพ.พงศ์เกษมกล่าวว่า ได้กำชับผู้บริหารในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเตรียมความพร้อมทั้งฝ่ายรับและฝ่ายโอนในพื้นที่ เนื่องจากปลัด สธ.ได้มอบอำนาจให้แก่ นพ.สสจ. เป็นผู้ลงนามการส่งมอบและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ นายก อบจ. ซึ่งแต่ละพื้นที่ สสจ.และ อบจ. ต้องประสานหารือ ติดตามตรวจสอบ ทบทวนประเด็นต่างๆ ที่อาจยังมีความไม่ชัดเจนหรือยังเป็นข้อกังวลใจอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง เพื่อให้การถ่ายโอนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และลดผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน หน่วยงานและบุคลากร จึงอาจทำให้บางจังหวัดล่าช้าอยู่บ้าง แต่ขณะนี้ถือว่าคืบหน้ามาก มีการถ่ายโอนไปแล้ว 40 จังหวัด รวม 2,932 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 9 จังหวัด รวม 331 แห่ง ทางพื้นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ
"หากทั้งสองฝ่ายเห็นว่าสิ่งที่ยังไม่ชัดเจนหรือยังเป็นข้อกังวลใจในการถ่ายโอน สามารถแก้ปัญหาได้ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการบริการประชาชน หรือบุคลากรที่ต้องถ่ายโอน ก็สามารถลงนามการส่งมอบและ MOU ได้ทันที" นพ.พงศ์เกษมกล่าว
นพ.พงศ์เกษมกล่าวว่า สธ.เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับช่วงที่อาจจะมีการระบาดของโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้น รวมถึงไวรัสอุบัติใหม่ตัวอื่นของโรคทางเดินหายใจที่เริ่มมีรายงาน และโรคติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ที่อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยและผลกระทบตามมา เนื่องจากระบบเดิมที่ดำเนินการอยู่ทางระบาดวิทยา คือการเฝ้าระวังโรค การควบคุมและป้องกันโรค การส่งต่อ ตลอดจนการรายงานข้อมูลและวิเคราะห์เพื่อให้เกิดการสั่งการตามระดับถึงในพื้นที่ ซึ่งอาจมีปัญหาเนื่องจากไม่สามารถสั่งการตรงได้ แต่เป็นการประสานงานแทน ทำให้อาจรับมือได้ไม่ทันท่วงที