แวดวงสาธารณสุขเผย กรมบัญชีกลางส่งหนังสือถึงหน่วยงานรัฐ ระบุสถานะ ธ.กรุงไทย อาจต้องปรับเปลี่ยนแบงก์ บุคลากร สธ.หวั่นกระทบบัญชีเงินบำรุง รพ. ทำจ่ายค่าเสี่ยงภัยล่าช้าอีก ขอผู้บริหาร สธ.และ สสจ.ชี้แจงให้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การปรับเปลี่ยนระบบบัญชีเงินบำรุงของ รพ.ในสังกัด รวมทั้ง รพ.สต. ว่า ล่าสุดมีหนังสือด่วนที่สุดจากคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ส่วนถึงปลัดกระทรวง อธิบดี อธิการบดี เลขาธิการ ผู้อำนวยการ ผู้ว่าราชการ ฯลฯ และหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ระบุถึงสถานะของบริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดยอ้างถึงคำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ) เรื่องเสร็จที่ 1397/2563 ใจความสำคัญคือ ธนาคารกรุงไทย ไม่ได้เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่เป็นรัฐวิสาหกิจตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 ประกอบกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นในอัตราร้อยละ 55.07 ของหุ้นทั้งหมด
เมื่อกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ไม่ได้เป็นส่วนราชการและไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนธนาคารของ รพ.ในสังกัดที่มีการจ่ายเงินจากงบเงินบำรุงด้วยหรือไม่ ซึ่งหากต้องปรับเปลี่ยน จะส่งผลให้หน่วยงานรัฐ รพ.ในสังกัดสธ.ที่มีการบริหารจัดการเงินบำรุง เดิมมีระบบบัญชีเชื่อมโยงกับธนาคารกรุงไทย ต้องมีการปรับเปลี่ยน ด้วยเหตุนี้ จึงกังวลกันว่า จะส่งผลต่อการจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยล่าช้าไปอีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาบุคลากรหลายคนยังไม่ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยอีกมาก
“เพื่อให้เกิดความชัดเจน ต้องขอให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลตรงนี้จะดีที่สุด เพราะขณะนี้ปัญหาเงินค่าเสี่ยงภัยกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความล่าช้าอย่างมาก แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของ สธ.โดยตรงกรณีการจัดสรรงบประมาณ แต่ สธ.ต้องมีส่วนในการทำความเข้าใจเรื่องนี้ เพราะล่าสุด เรื่องเงินค่าเสี่ยงภัยที่แบ่งเป็นเงิน 2 ก้อน คือ งบเงินกู้ให้วิชาชีพต่างๆ และงบกลางให้สายสนับสนุน หรือสายอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานโควิด แม้จะเป็นเพราะสำนักงบฯ ดำเนินการจัดสรรมาให้ สธ. แต่ สธ.ต้องชี้แจงอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็บั่นทอนขวัญกำลังใจบุคลากร เพราะตอนนี้ในพื้นที่ตัดพ้อเรื่องนี้กันมากแล้ว แม้จะเป็นหน้าที่ในการทำงาน แต่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะมีให้ แล้วติดปัญหาลากยาวมาทุกวันนี้ ความบั่นทอนย่อมเกิดขึ้นแน่นอน” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวฯ กล่าวอีกว่า บุคลากรสาธารณสุขส่วนหนึ่งเข้าใจว่า งบค่าเสี่ยงภัยที่ล่าช้าอาจเป็นเพราะขั้นตอนการปรับเปลี่ยนระบบบัญชีที่ต้องเปลี่ยนธนาคาร ซึ่งจริงๆ ส่วนตัวคิดว่ามีหลายปัจจัย เพราะงบบางส่วนก็ไม่พอจริงๆ ต้องขอสำนักงบประมาณเพิ่มอีก ไม่รู้ว่าจะได้อีกเมื่อไร ตอนนี้สิ่งสำคัญขอให้ผู้บริหาร สธ.ที่ดูแลเรื่องนี้ ช่วยชี้แจงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องหรือทำหนังสือชี้แจงว่า เงินค่าเสี่ยงภัยล่าช้าเพราะอะไร เนื่องจากในพื้นที่ จังหวัดต่างๆ วุ่นวายมาก ผอ.รพ. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หลายแห่งไม่มีการอธิบายหรือชี้แจงเกี่ยวกับค่าเสี่ยงภัยให้เข้าใจอย่างละเอียด