กรมแผนไทยฯ เผยไทยได้เปรียบรุกตลาด "กัญชา" เหตุมีความรู้ภูมิปัญญาแน่น พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งสำหรับคนและสัตว์ในรูปแบบอาหาร เครื่องสำอาง เสริมภูมิคุ้มกัน กระตุ้นมูลค่าเศรษฐกิจ นำเงินเข้าประเทศ ตลาดยุโรปสูง 1.2 หมื่นล.ดอลลาร์ อเมริกา 1 หมื่นล.ดอลลาร์ เร่งสร้างความเข้าใจภาคประชาชน ผู้ป่วย ผู้ประกอบการ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมฯ จัดประชุมวิชาการ “กัญชา” DTAM Forum ทุกวันจันทร์หรืออังคารในแต่ละสัปดาห์ เวลา 13.00 – 16.00 น. ระหว่าง พ.ย. - ธ.ค. 2565 ทั้งออนไซต์และออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กกรมฯ เพื่อให้ความรู้กัญชาแง่มุมต่างๆ แก่ผู้ป่วย ประชาชน และ ผู้ประกอบการนำไปใช้ประโยชน์ โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นหัวข้อ "การใช้และส่งเสริมกัญชาเพื่อเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ" ซึ่งมีการพูดถึงข้อมูลที่ได้จากการไปประชุมวิชาการ MED-Can 2022 สาธารณรัฐมอลตาพบว่า มูลค่าตลาดกัญชาในยุโรป อยู่ที่ 12,000 ล้านดอลลาร์ ตลาดสหรัฐอเมริกาสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ และมีประเทศที่มีกฎหมายกัญชารองรับอยู่ประมาณ 10%
ขณะที่สถานภาพผลิตภัณฑ์กัญชาในตลาดโลก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ผลิตภัณฑ์ที่มีเฉพาะ CBD (THC 0%) เป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย หรือกัญชายังเป็นยาเสพติด 2.ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ทางการแพทย์ พบในประเทศที่อนุญาตให้ใช้ได้ภายใต้การควบคุม พบมากกว่า 40 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มนี้ และ 3. สามารถใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ พบในประเทศที่เปิดกัญชาเสรีแบบเต็มตัว ได้แก่ อุรุกวัย จอร์เจีย แคนาดา แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกาใน 17 มลรัฐ
นอกจากนี้ ยังได้รับข้อมูลสำคัญ คือ 1.การใช้กัญชาทางการแพทย์ในอังกฤษ จะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สั่งจ่าย จึงเกิดการเข้าถึงยากัญชาน้อย ทำให้เกิดการเรียกร้องให้แก้กฎหมายในอังกฤษ 2.การพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาให้เดินหน้าได้ ต้องทำความเข้าใจ ให้ความรู้ เพราะคนยังมีความรู้สึกว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ต้องพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการส่งออก ต้องมีระบบบริการจัดการไม่ให้คนใช้ในทางที่ผิด 3. ในอนาคตจะไม่มีเฉพาะผลิตภัณฑ์กัญชา แต่จะมียากัญชาที่มีกระบวนการผลิต ระบุหลักการใช้ การออกฤทธิ์ มีงานวิจัยที่บ่งชี้ชัดเจน ขณะนี้มีทั้งรูปแบบยาพ่น ยาอม ยานอนหลับ 4.กัญชาถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เป็นอย่างมากเพื่อลดปวดในยุโรปและอเมริกา และ 5.การลงทุนต้องรอตลาดให้โตทัน
ล่าสุด หลายประเทศในแถบเอเชียกำลังตื่นตัวส่งเสริมธุรกิจกัญชา กัญชง ซึ่งไทยได้เปรียบเพราะมีองค์ความรู้แน่น มีตำรับยาแผนไทยเกี่ยวกับกัญชา เป็นประเทศแรกที่มีกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา เป็นโอกาสที่สร้างเศรษฐกิจจากต่างประเทศ โดยเน้น Medical well-being นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Asian Cannabis Report ระบุว่า กัญชามีโอกาสพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายทั้งสำหรับคนและสัตว์ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หากสินค้ามีคุณภาพและมีการวิจัยทางคลินิกรับรองจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสูงมาก
"การจัดประชุมวิชาการดังกล่าวเป็นเวทีที่เปิดกว้างเพื่อให้สามารถนำประสบการณ์ องค์ความรู้ด้านกัญชาที่หลากหลายมาร่วมแลกเปลี่ยน แต่ต้องเข้าใจว่า ปัจจุบันไทยยังไม่อนุญาตการใช้เพื่อสันทนาการ การนำเข้ากัญชาจะยอมรับเพียงบางประเทศ เฉพาะที่มีมาตรฐาน EU GMP ซึ่งไทยและประเทศในอาเซียนยังไม่รับนำเข้า ผู้ประกอบการในไทยต้องศึกษาข้อมูลและกฎหมายของประเทศที่จะส่งออกด้วย" นพ.ธงชัยกล่าว
