สปสช.ยันดีเลย์ลงนามหลักเกณฑ์กองทุนบัตรทองปีงบ 66 ไม่กระทบสิทธิรักษา ยังรับบริการตามปกติ เผยโอนเงินค่าบริการโควิด 1.1 หมื่นล้านบาทให้หน่วยบริการ 1,300 แห่งแล้ว
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า แม้ร่างประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรณีบริการด้านเสริมสุขภาพและป้องกันให้แก่ประชาชนไทยทุกคน จะยังไม่ได้รับการลงนามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. จนอาจทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดผลกระทบกับหน่วยบริการและการให้บริการแก่ประชาชนนั้น ขอชี้แจงว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการให้บริการประชาชน หน่วยบริการยังให้บริการตามปกติ แม้การประกาศใช้หลักเกณฑ์ฯ ฉบับดังกล่าวอาจล่าช้ากว่าปกติไปบ้าง เนื่องจากมีการตีความกฎหมายที่ต่างกันว่า สิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคครอบคลุมคนไทยทุกคนหรือเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทอง
"สปสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจ วันที่ 18 ต.ค. 2565 ได้ประชุมชี้แจงกับตัวแทนหน่วยบริการทั่วประเทศแล้ว และวันที่ 4 พ.ย. 2565 บอร์ด สปสช.ได้ประชุมหารือถึงแนวทางแก้ปัญหา และประธานบอร์ด สปสช.เองก็อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างรอบคอบและจะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการกับร่างหลักเกณฑ์ฉบับนี้อย่างไรต่อไป ซึ่งกรณีที่ต้องเสนอเรื่องเพื่อขอความชัดเจนจาก ครม.ก็ไม่มีผลกระทบกับหน่วยบริการและประชาชน ประชาชนยังคงเข้าถึงสิทธิรักษาในระบบหลักประกันฯ เหมือนเดิม” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สิทธิในการรักษายังมีอยู่เช่นเดิมตามปกติ เป็นคนละประเด็นกับเรื่องหลักเกณฑ์ฯ ที่เป็นกระบวนการบริหารจัดการระหว่าง สปสช. และหน่วยบริการ ไม่เป็นเหตุให้ระงับสิทธิของผู้มีสิทธิได้ และขอสื่อสารไปยังหน่วยบริการต่างๆ ว่า ระหว่างนี้ขอให้จัดบริการตามปกติ ส่วนประเด็นที่ยังเป็นปัญหาอยู่ จะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้แน่นอน สัปดาห์ที่ผ่านมา สปสช.ได้โอนเงินค่าบริการโควิดหลังจากได้รับอนุมัติโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2565 เพิ่มเติม ให้กับหน่วยบริการ 1,300 กว่าแห่ง รวม 10,038.73 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าบริการตรวจคัดกรอง 350.06 ล้านบาท ค่าบริการให้การรักษาใน รพ. 1,635.38 ล้านบาท ค่าบริการรักษาผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเขียว 8,053.29 ล้านบาท และในสัปดาห์นี้จะมีการโอนเงินค่าบริการโควิด-19 เพิ่มเติมให้กับหน่วยบริการอีก 1,700 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 11,738.73 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับหน่วยบริการได้อีก