“ปัญหาฟันผุ” เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก ไม่ว่าจะในประเทศที่พัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา เนื่องจากส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิต หากไม่รีบรักษาอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟันได้ ดังนั้น นอกจากไทยได้บรรจุปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นวาระแห่งชาติ โดยเน้นการให้ความรู้เชิงป้องกันแล้ว การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ โดยนักวิจัยไทย จะช่วยเข้ามาเสริมเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพช่องปากได้อีกทางหนึ่ง อย่างเช่น กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู ที่นำผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยของทีมนักวิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งประกอบด้วยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคช่องปาก และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเภสัชกรรม เป็นผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมฟิล์มสเปรย์พ่นบนผิวฟันตัวแรกของประเทศไทย ที่ช่วยป้องกันปัญหาฟันและช่องปาก “Snake Brand Herbal Film Spray” (ตรางู เฮอร์เบิ้ล ฟิล์ม สเปรย์)
เรื่องของ “สุขภาพช่องปาก” ได้รับการบรรจุในปฏิญญาทางการเมืองว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสหประชาชาติ (UN Political Declaration on Universal Health Coverage) ซึ่งมีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการโดยบรรดาผู้นำโลก ภายในการประชุมระดับสูงว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในวันที่ 23 กันยายน 2562 ที่นครนิวยอร์ก และในประเทศไทยมีการบรรจุเป็นนโยบายแห่งชาติ ข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข ปี 2565 พบว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากยังเป็นปัญหาที่สำคัญ โดยพบว่า เด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 52.9 และเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 75.6 มีประสบการณ์ฟันน้ำนมผุ ส่วนเด็กวัยเรียนและเยาวชนอายุ 12 ปี ร้อยละ 52.0 มีประสบการณ์การเกิดโรคฟันแท้ผุ ขณะที่ กลุ่มวัยทำงานอายุ 35 - 44 ปี มีปัญหาสภาวะปริทันต์ที่พบการอักเสบของเหงือก มีเลือดออกง่าย ร้อยละ 51.0 และปัญหาโรคฟันผุที่ยังไม่ได้รับการรักษาร้อยละ 43.3 สำหรับผู้สูงอายุ พบว่า มีฟันถาวรใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ เพียงร้อยละ 56.1 เท่านั้น
ศ.ทพญ.ดร. วิภาวี นิตยานันทะ ทันตแพทย์ และนักวิจัยผู้ทำการวิจัยผลิตภัณฑ์ Snake Brand Herbal Film Spray ให้ข้อมูลถึงปัญหาฟันผุ และปัญหาช่องปากในคนไทยว่า “กลุ่มที่มีปัญหาฟันผุจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงบริการทันตกรรม โดยเฉพาะวัยทำงานและผู้สูงอายุ เกือบ 50% มีฟันผุที่ยังไม่ได้รับการรักษา ปัญหาฟันผุมีผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกาย
ทำให้เกิดอาการไม่สบายในช่องปาก ความสามารถในการทำงานลดลง มีผลทางลบต่อชีวิตประจำวัน กระทบคุณภาพชีวิต และเกิดปัญหาด้านจิตใจ อาทิ อาการปวดฟันจากฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน ซึ่งค่อนข้างทรมานและส่งผลต่อสุขภาพจิต”
ฟันผุ ไม่รักษา เสี่ยงสูญเสียฟัน
นอกจากนี้ การมีฟันผุแล้วไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่การสูญเสียฟันก่อนวัยอันควร หรือการที่มีหินปูนเกาะฟันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดฟันโยก เคี้ยวลำบาก ส่งผลให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เป็นผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม อีกทั้ง ปัญหาการติดเชื้อเละการอักเสบเรื้อรังในช่องปาก มีการวิจัยระบุว่า อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางระบบต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เเละ โรคมะเร็งได้อีกด้วย ปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นปัญหาระดับโลก ขณะที่ประเทศไทยมีการบรรจุนโยบายสุขภาพช่องปากเป็นนโยบายแห่งชาติ เน้นการเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการกินอาหารน้ำตาลสูง ลดหรือเลิกการสูบบุหรี่ ใช้ไหมขัดฟัน ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ และแปรงฟันอย่างถูกวิธี การให้ความรู้ด้านส่งเสริมสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอยู่ และในระดับนโยบายเน้นย้ำการตระหนัก ความสำคัญของการมีสุขภาพช่องปากที่ดี และการหานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากให้ดีขึ้น”
นวัตกรรมสเปรย์ช่องปาก จากสมุนไพรไทย
ศ.ทพญ.ดร.วิภาวี กล่าวเพิ่มเติมว่า “โรคช่องปากที่พบบ่อย เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ หลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรียก่อโรคฟันผุ เชื้อแบคทีเรียก่อโรคเหงือกอักเสบ และเชื้อราที่มักเป็นปัญหาโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ที่ใส่ฟันปลอม การเกิดไบโอฟิล์มเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคช่องปากต่าง ๆ เหล่านี้ ที่ผ่านมาจึงมุ่งศึกษาวิจัย ‘สารสกัดจากเปลือกมังคุด และใบเทียนบ้าน’ เพื่อพัฒนาในรูปแบบฟิล์มสเปรย์ช่องปาก โดยพบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจาก
เปลือกมังคุดและใบเทียนบ้าน มีประสิทธิภาพยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคฟันผุ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบ และยับยั้งเชื้อรา รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการอักเสบ เเละยับยั้งการเกิดไบโอฟิล์ม โดยไม่เป็นพิษต่อเซลล์เนื้อเยื่อช่องปาก ดังนั้นฟิล์มสเปรย์ช่องปากที่มีส่วนผสมของสารสกัดสองชนิดนี้ สามารถพัฒนาเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยในการดูเเลอนามัยช่องปาก โดยใช้ร่วมกันกับการแปรงฟัน เป็นตัวเสริมช่วยให้การป้องกันฟันเละเหงือกดียิ่งขึ้น สามารถใช้ต่อเนื่องได้ มีความปลอดภัยสูง
หยิบงานวิจัยจากหิ้ง สู่ร้านขายยาทั่วประเทศ
คุณอนุรุธ ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ร่วมกับทีมนักวิจัย ทันตแพทย์ และบุคลากรด้านการแพทย์ ของมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่องว่า “เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ ฟิล์มสเปรย์พ่นบนผิวฟัน ที่ใช้ในการดูแลสุขภาพฟันและช่องปาก ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ Snake Brand Herbal Film Spray โดยวางกลุ่มเป้าหมาย คือกลุ่มที่ต้องการปกป้องสุขภาพช่องปากและฟัน แต่มีข้อจำกัดในเรื่อง เวลา สถานที่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเรื่องการดูแลเรื่องดังกล่าว เช่น กลุ่มพนักงานออฟฟิศ นักท่องเที่ยว นักเดินป่า ผู้ป่วยติดเตียง และ ผู้ที่มีปัญหาช่องปากทำให้ทำความสะอาดได้ยาก หรือทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง เช่น กลุ่มผู้ที่ดัดฟัน เป็นต้น รวมถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ให้ประสบการณ์และความรู้สึกใหม่ ๆ ในการปกป้องสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย”