กรมควบคุมโรค ห่วงป่วยโควิดสูงขึ้น ส่วนดับเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยวันละ 4 รายเป็น 8-9 ราย ฝาก อสม.ทุกคนรับเข็มกระตุ้นหรือ LAAB สร้างความมั่นใจชาวบ้าน ค้นหาคนยังไม่ได้วัคซีนให้พามาฉีด ให้ข้อมูลผู้ปกครองชักชวนฉีดวัคซีนเด็กเล็ก ย้ำปลอดภัยสูง
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่วัดไทรใหญ่ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลไทรน้อย จ.นนทบุรี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเปิดกิจกรรมรณรงค์สร้างความเชื่อมั่นฉีดวัคซีนฝาแดง และ LAAB แก่ อสม.และกลุ่ม 608 ภายใต้โครงการ “รวมพลัง อสม.ส่งต่อภูมิคุ้มกัน” ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยโควิด 19 เริ่มเพิ่มขึ้น ผู้เสียชีวิตเพิ่มจากเฉลี่ยวันละ 4 คน เป็นวันละ 8-9 คน ส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ไม่ได้รับวัคซีน รับเพียง 1 เข็ม หรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้น กิจกรรมครั้งนี้เป็นการรวมพลัง อสม.อีกครั้งหนึ่ง โดยบทบาทสำคัญของ อสม.ในขณะนี้ คือ 1. อสม.ทุกคนรับเข็มกระตุ้น หรือ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน 2.ค้นหาผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้มารับวัคซีน เชิญชวนกลุ่ม 608 ผู้ป่วยติดเตียงมารับเข็มกระตุ้น และ 3.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนเด็กเล็กกับผู้ปกครอง เพื่อให้นำลูกหลานมารับวัคซีนฝาแดงสำหรับเด็กเล็ก
"ขณะนี้มีข้อมูลที่จะช่วยให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่า วัคซีนเด็กเล็กมีความปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย และสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี คาดหวังว่าใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งเป็นหน้าหนาวของไทยและทั่วโลก พบผู้ป่วยโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้น เราจะสามารถควบคุมจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นได้ พร้อมกับรณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ และเว้นระยะห่าง อย่างต่อเนื่องต่อไป" นพ.ธเรศกล่าว
ด้าน รศ.พญ.วนัทปรียา พงษ์สามารถ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากรายงานการฉีดวัคซีนในเด็กเล็กของสหรัฐอเมริกากว่า 1 ล้านโดส ไม่พบเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเลย จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่อาการใดที่ต้องกังวล แต่ยังเฝ้าระวังหลังฉีดในเด็กเล็กเช่นเดิม สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เพิ่มเติม กรณีเด็กและวัยรุ่นที่เคยติดโรคโควิด 19 ไปแล้ว ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 เดือนนับจากวันที่เริ่มมีอาการเจ็บป่วย ถ้าไม่แสดงอาการป่วยให้นับจากวันที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวก สำหรับเด็กเล็ก 6 เดือนถึง 4 ปี ซึ่งจะรับวัคซีนตามวัยอยู่แล้ว สามารถรับวัคซีนโควิดพร้อมกันได้เสมือนรับวัคซีนตามวัย เพราะมีความปลอดภัยสูง และเนื่องจากเด็กเล็กต้องฉีด 3 เข็ม มีระยะห่าง 3 เดือน กรณีเปลี่ยนกลุ่มอายุระหว่างเข็ม มีคำแนะนำให้ใช้วัคซีนตามวัยในวันที่มาฉีด เช่น เข็ม 1-2 อายุไม่เกิน 5 ขวบ ฉีดฝาแดง พอฉีดเข็ม 3 อายุเกิน 5 ปีให้ฉีดฝาส้ม ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิดจะเบาบางลง แต่เด็กๆ ยังติดเชื้อ โดยเด็กเล็กเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุด มีอาการรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าเด็กกลุ่มอื่น ซึ่งการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันเชื้อโอมิครอนสูงถึงร้อยละ 80 และฉีดร่วมกับวัคซีนตามวัยชนิดอื่นได้
