xs
xsm
sm
md
lg

แจง "โควิด" ป่วยเพิ่ม 12.8% เหตุถอดหน้ากาก-รวมตัวมากขึ้น สั่งทุก จว.ทำแผนลุยฉีดถึงหมู่บ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.แจงผู้ป่วยโควิดไทยเพิ่มขึ้น 12.8% เป็นไปตามคาด เหตุมีกิจกรรมรวมตัวช่วงใกล้ปลายปี คนเริ่มถอดแมสก์มากขึ้น เร่งฉีดวัคซีน 2 ล้านโดส สั่งทุกจังหวัดจัดทำแผนระดับอำเภอ ลุยเชิงรุกถึงหมู่บ้าน เน้นกลุ่มเด็กเล็กและ 608 เพิ่มภูมิคุ้มกันลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด 19 ของไทยเพิ่มขึ้น 12.8% ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ 45 วันที่ 6-12 พ.ย. 2565 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด 19 รวม 3,166 ราย เฉลี่ย 452 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 12.8% เสียชีวิต 42 ราย แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว ขณะที่ผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อาจเป็นผลจากอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง ประชาชนมีกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก ทั้งนักเรียนเปิดเทอม การเดินทางท่องเที่ยว สังสรรค์ รวมถึงบางส่วนเริ่มผ่อนคลายการสวมหน้ากาก ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ว่าการติดเชื้ออาจจะสูงขึ้นอีกในช่วงปลายปีที่มีกิจกรรมและงานรื่นเริงช่วงใกล้เทศกาล ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด 19 เป้าหมายไม่น้อยกว่า 2 ล้านโดส ภายใน ธ.ค.นี้ เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กเล็กและเข็มกระตุ้นในกลุ่ม 608 เพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิต

"ขณะนี้ได้ประสานเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนสะดวกที่สุด เช่น สมาคม รพ.เอกชนให้ช่วยบริการวัคซีนในวันหยุด, สำนักงานประกันสังคมเร่งฉีดเข็มกระตุ้นในผู้ประกันตน และ รพ.สังกัดทหารหรือตำรวจเพื่อฉีดวัคซีนให้บุคลากร เป็นต้น" นพ.ธเรศกล่าว


ด้าน นพ.สุเทพ เพชรมาก หัวหน้าผู้ตรวจราชการ สธ. กล่าวว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด 19 สะสม 143.7 ล้านโดส ฉีดครบ 2 เข็ม 53.9 ล้านราย คิดเป็น 77.5 % และเข็มที่ 3 ขึ้นไป 32.4 ล้านราย คิดเป็น 46.6% ส่วนฉีดวัคซีนตามเป้าหมาย 2 ล้านโดส เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. ขณะนี้ผ่านมา 2 สัปดาห์ เข้ารับวัคซีนเพิ่มขึ้น 1.9 แสนโดส ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม อสม.และกลุ่ม 608 โดย 3 เขตสุขภาพที่ฉีดวัคซีนสูงสุด คือ เขตสุขภาพที่ 6, 5 และ 4 ส่วน 3 จังหวัดสูงสุด คือ ชลบุรี นครราชสีมา และสมุทรสาคร ตามลำดับ ภาพรวมยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ จึงเร่งสื่อสารให้ทุกจังหวัดทำแผนและเป้าหมายการฉีดวัคซีนสู่ระดับอำเภอ ทำระบบรายงานผลประจำวันรายหน่วยบริการ เน้นเชิญชวน ค้นหา ติดตามคนที่ยังไม่ได้ฉีดจนถึงระดับหมู่บ้าน โดย อสม.ร่วมกับกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ด้วยกัน อำนวยความสะดวกผู้เข้ามารับวัคซีนให้มากที่สุด เช่น ตั้งหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอก รพ. บริการฉีดวัคซีนถึงบ้านกลุ่ม 608 และติดเตียง เป็นต้น

"ยืนยันว่ามีวัคซีนเพียงพอ เข้าถึงได้ง่าย ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่ฉีดเข็มล่าสุดมากกว่า 4 เดือนขึ้นไปมารับเข็มกระตุ้นที่หน่วยบริการวัคซีนใกล้บ้าน ซึ่ง สธ.ได้เตรียมยาต้านไวรัส เวชภัณฑ์ วัคซีน และ LAAB ไว้เพียงพอเพื่อรองรับการระบาด ขณะที่ รพ.รัฐและเอกชนทั่วประเทศมีความพร้อมให้บริการวัคซีนโควิดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย" นพ.สุเทพกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น