ทั่วโลกพบ "ปอดอักเสบ" ปีละ 400 ล้านคน ตาย 2.5 ล้านคน ครึ่งหนึ่งอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ ลุ้นวัคซีน RSV ใกล้แล้วเสร็จ ช่วยป้องกันปอดอักเสบในเด็ก หากมีวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสจะยิ่งดี ห่วง "โควิด" อยู่ไปอีกนาน มีไวรัสตัวอื่นรออีกในค้างคาว เตือนอย่าเล่นกับไฟ หลังมีคนโพสต์กินค้างคาว
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ กรรมการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวในงานเสวนาวิชาการออนไลน์ เนื่องในวันปอดอักเสบโลก เรื่อง ประเทศไทยกับการเตรียมความพร้อมสู่การป้องกันโรคปอดอักเสบหลังการระบาดโควิด 19 ว่า โรคปอดบวมกับปอดอักเสบคล้ายกัน แต่ต้องใช้คำว่า ปอดอักเสบจะตรงมากกว่า โดยโรคนี้เป็นได้ทุกช่วงอายุ การดูแลป้องกันจะแตกต่างกัน ทั้งนี้ สถานการณ์ระดับโลกแต่ละปีมีคนป่วยปอดอักเสบ 400 ล้านคน เสียชีวิตปีละ 2.5 ล้านคน จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอายุต่ำกว่า 15 ปี และพบมากอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นแล้วอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ เพราะภูมิคุ้มกันต่ำ และมีโรคประจำตัว ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่พบมากในอายุเกิน 65-70 ปีขึ้นไป เพราะมีโรคประจำตัว ติดเชื้อง่าย และมีโอกาสรุนแรงง่าย อีกทั้งภูมิคุ้มกันก็เริ่มอ่อนแอลง
“ปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ตัวสำคัญคือ นิวโมคอคคัส ซึ่งมีอยู่แล้ว เกาะอยู่ในคอ รอวันจู่โจม วันใดวันหนึ่งร่างกายอ่อนแอ เช่น ป่วยไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ จะทำให้ทางเดินหายใจขรุขระ ทำให้เชื้อที่เกาะในคอลงไปที่ปอดได้ง่าย ที่กลัวที่สุด คือ อาจเข้าสู่เลือด จะไม่ไต่ไปปอดก่อน เมื่อเข้าสู่เลือดจะไปสมอง กระดูก และอาจวนมาที่ปอด กลายเป็นไอพีดี หรือกลุ่มโรครุนแรงของเชื้อนิวโมคอคคัส” นพ.ทวีกล่าว
นพ.ทวี กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดปอดอักเสบ คือ 1.อายุ คือ อายุน้อย อายุมาก มีโรคร่วม เป็นต้น 2.การกินนมแม่ อย่างปอดอักเสบจะโฟกัสไปเด็ก หากกินนมแม่จะได้ภูมิคุ้มกัน แนะนำให้เด็กหลังคลอดรับนมแม่จะป้องกันโรคได้ 3.สภาพอากาศ ฝุ่นละออง PM 2.5 ควันบุหรี่ 4.ประเทศที่มีเศรษฐานะยากจน ขาดอาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดลง และ 5. ภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคน ทั้งนี้ เทคโนโลยีจากวัคซีนจะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อต่างๆ มากขึ้น อย่างเชื้อไวรัส RSV ที่เป็นสาเหตุปอดอักเสบในเด็กและผู้สูงอายุ มีการพัฒนาวัคซีนใกล้สำเร็จแล้ว อนาคตอันใกล้จะศึกษาใช้ในเด็กต่อไป แต่ทราบว่าล่าสุดมีผลต่อการป้องกันในกลุ่มผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์
นอกจากนี้ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบจากเชื้อต่างๆ อย่างเชื้อนิวโมคอคคัส เป็นวัคซีนที่อยากได้มาก โดยเฉพาะในเด็กเพื่อป้องกันโรคไอพีดี อาการรุนแรง ส่วนวัคซีนฮิบ (Hib) ปัจจุบันเด็กไทยได้แล้ว ป้องกันทั้งปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ห่วงว่าการสวมหน้ากากอนามัยลด การระบาดจะมากขึ้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละครั้งคุ้มค่ามาก เพราะป้องกันไข้หวัดใหญ่ ยังป้องกันนิวโมคอคคัสได้ และย้ำว่าโควิดไม่มีวันไปไหน อยู่กับเราไปชั่วกัลปาวสาน และจะลากเอาพี่น้องมาด้วย
"โควิดเป็นตัวอย่างสำคัญ ว่าการบาลานซ์ของธรรมชาติกับมนุษย์สำคัญมาก ยังมีเชื้อโคโรนาไวรัสตัวใหม่ๆ อีกมากที่รออยู่ และรอที่ไหน เชื่อว่า รออยู่ในค้างคาว ดังนั้น ข่าวที่ไปกินค้างคาว อย่าเล่นกับไฟ อันตรายสุดๆ ค้างคาวเป็นสุดยอดแห่งสัตว์นำเชื้อโรคต่างๆ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โคโรนาไวรัส ไข้สมองอักเสบ พิษสุนัขบ้า ฯลฯ" นพ.ทวี กล่าวและว่า การฉีดวัคซีนโควิดจะป้องกันอาการรุนแรง ปอดอักเสบและเสียชีวิตได้ ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ ให้รีบมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะป้องกันการเสียชีวิตได้ โควิดป่วยแล้วก็หาย แต่หากลงปอด จนเกิดปอดอักเสบจะรุนแรงมาก
ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า โรคปอดบวม ปอดอักเสบ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของไทย สาเหตุเกิดทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบของปอด ดังนั้น หากเรารู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร และทราบการป้องกันก็จะช่วยได้ ซึ่งเราป้องกันได้ด้วยวัคซีน มีหลายชนิด องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ทุกวันที่ 12 พ.ย.ของทุกปีเป็นวันโรคปอดอักเสบโลก เพื่อให้มีการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้การป้องกันโรค แนวทางการป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยก็ช่วยได้ เพราะปอดอักเสบเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ การฉีดวัคซีนโควิดลดโอกาสเกิดปอดอักเสบเช่นกัน ขอเชิญชวนประชาชนมาฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้มีโรคร่วม หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กอายุ 6 เดือนเป็นต้นไป จะช่วยลดความรุนแรงและเสียชีวิต ทั้งโควิดและปอดอักเสบ