ชีวิตในแต่ละวันของผู้ประกันตนอาจพบเจอกับเหตุร้ายอันตรายจนถึงแก่ความตายหรือบางรายอาจเจ็บป่วยจนทำให้เสียชีวิต ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทางสำนักงานประกันสังคมจึงคุ้มครองผู้ประกันตนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตแก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 เมื่อเสียชีวิตที่มิใช่เนื่องจากการทำงาน
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีตายต่อเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนถึงแก่ความตาย ซึ่งสิทธิประโยชน์กรณีตาย คือ ค่าทำศพและเงินสงเคราะห์การตายให้แก่ทายาท โดยสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าทำศพ 50,000 บาท ให้แก่ผู้จัดการศพ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้จัดการศพ สามี ภรรยา บิดามารดา บุตรของผู้ประกันตน หรือบุคคลอื่นซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน
ส่วนเงินสงเคราะห์การตาย จะจ่ายให้แก่ทายาทหรือบุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์นั้น แต่ถ้าผู้ประกันตนมิได้มีหนังสือระบุไว้จะนำมาเฉลี่ยให้แก่สามีหรือภรรยา บิดามารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่ากัน ดังนั้น ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน จะได้รับเงินสงเคราะห์การตายเป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 4 เดือน ถ้าก่อนถึงแก่ความตายผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์การตายเท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 12 เดือน นอกจากนี้แล้วเมื่อผู้ประกันตนเสียชีวิต ทายาทผู้มีสิทธิสามารถขอรับคืนเงินกรณีชราภาพได้ภายใน 2 ปี อีกด้วย
ทั้งนี้ สามารถยื่นเอกสารขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายประโยชน์ทดแทนผ่านพร้อมเพย์ธนาคารที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอยื่น โดยใช้หลักฐานแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01) พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการศพพร้อมตัวจริง หลักฐานจากฌาปนสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ สำเนาใบมรณบัตรพร้อมตัวจริง
ส่วนกรณีขอรับเงินสงเคราะห์การตาย ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01) พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตนและของบิดามารดาของผู้เสียชีวิต (ถ้ามี) สำเนาสูติบัตรของบุตรหรือสำเนาทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร หนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตาย (ถ้ามี)
รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการ 24 ชั่วโมง หรือ Line : @ssothai และทางเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
#Website: www.sso.go.th
#Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Instagram : sso_1506
#Twitter: @sso_1506
#YouTube : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Hotline: 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
#LINE : @SSOTHAI
#TikTok : @SSONEWS1506
