สธ.จ่อปรับสถานะ "น้ำมันกัญชา" สูตร อ.เดชา ในบัญชียาหลักฯ เป็นปัญชี 1 ช่วยสั่งจ่ายกว้างขวางขึ้น ปี 66 ลุยงานกัญชาเพิ่มอีก 2 ด้าน เน้นสร้างความรอบรู้ บังคับใช้กฎหมาย
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ ปีงบประมาณ 2565 ที่ผ่านมา เน้น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเข้าถึงยากัญชาที่มีคุณภาพของผู้ป่วย, การพัฒนาวิจัยและนวัตกรรม, การคุ้มครองผู้บริโภค และการปกป้องกลุ่มเปราะบาง ซึ่งผลการดำเนินงานถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงยากัญชาที่มีคุณภาพ มีผู้ป่วยเข้าถึงยากัญชาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 154.38 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนในปีงบประมาณ 2566 นอกจากขับเคลื่อน 4 ประเด็นเดิม จะเพิ่มเติมอีก 2 ประเด็น คือ สร้างความรอบรู้ด้านกัญชา และการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ โดยแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขากัญชา เขตสุขภาพ สถาบันกัญชาทางการแพทย์ กองบริหารการสาธารณสุข และกรมวิชาการ คือ กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และกรมสุขภาพจิต จะร่วมกันทำวิจัยเพื่อขยายกลุ่มโรค และเสนอเข้าสู่สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยามากขึ้นและไม่เสียค่าใช้จ่าย
อย่างกรมการแพทย์จัดตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ จัดทำแพลตฟอร์มการวิจัยให้ทุกหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมใช้ มีการลงนามความร่วมมือกับเนเธอร์แลนด์แล้ว กำลังหารือร่วมกับมาเลเซีย ส่วนกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะวิจัยกัญชาทางการแพทย์แผนไทย เพื่อสนับสนุนการใช้โดยเฉพาะในหน่วยปฐมภูมิ และจะปรับสถานะน้ำมันกัญชาสูตรอาจารย์เดชาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร จากบัญชี 3 รายการยาสำหรับโครงการพิเศษของหน่วยงานรัฐ มาเป็นบัญชี 1 รายการยาที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพ เพื่อให้สามารถสั่งจ่ายได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าใช้ได้ผลดี และช่วยแก้ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยของประชาชน และยังเป็นการเปิดโอกาสให้เอกชนผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนและจำหน่ายให้สถานพยาบาลได้
นอกจากนี้ เขตสุขภาพ สถาบันกัญชาทางการแพทย์ และกองบริหารการสาธารณสุข จะร่วมกันจัดทำตัวชี้วัดการจัดการความรู้และวิจัยกัญชา กำหนดให้แต่ละเขตสุขภาพจะมีงานวิจัยอย่างน้อย 2 เรื่อง ซึ่งจะทำให้มีองค์ความรู้มากขึ้นในการนำมาใช้กับผู้ป่วย สำหรับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกัญชาทางการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยฯ นำยาตามองค์ความรู้ดั้งเดิมมาพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่สะดวกต่อการใช้และยังคงประสิทธิผล เช่น เป็นครีม ยาผงละลายน้ำ หรือยาเม็ดให้แตกตัวในลำไส้เพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารและออกฤทธิ์ได้นานขึ้น เป็นต้น ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศึกษาวิจัยลักษณะทางพันธุกรรมและเคมีของกัญชาสายพันธุ์ไทย 4 สายพันธุ์หลักที่อยู่ระหว่างขึ้นทะเบียนเพื่อรับรองสายพันธุ์ จะทำให้ไทยมีสายพันธุ์กัญชาที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศ รวมถึงจะพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชาสายพันธุ์ไทยให้ภาคเอกชนต่อไป
"ส่วนการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) มี อสม.เป็นแกนนำเฝ้าระวังและให้ข้อมูลกัญชาที่ถูกต้องกับผู้ป่วย กรมการแพทย์และกรมสุขภาพจิตจะติดตามผลกระทบจากการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิด ผ่านฐานข้อมูลของกรมและ สธ. ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบตัวเลขที่เพิ่มขึ้นชัดเจน" นพ.ประพนธ์กล่าว