กรมควบคุมโรครับยังฉีดวัคซีนโควิดเด็กเล็ก 6 เดือนถึง 4 ปีได้น้อยเพียง 6 พันราย จับมือ พม.ขยายฉีดในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน ประเดิม 3 พ.ย.นี้ที่ปากเกร็ด สำรวจพบสาเหตุผู้ปกครองไม่พามาฉีด เหตุกังวลปลอดภัยและสถานการณ์โควิดดีขึ้น ย้ำวัคซีนปลอดภัย เด็กเล็กเสี่ยงติดเชื้อและตายมากกว่าเด็กโต หากใช้วัคซีนไม่หมดเล็งเปลี่ยนรุ่นใหม่หรือใช้ดูแลเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงการเร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 กลุ่มเด็กเล็ก 6 เดือน - 4 ปี ว่า ตั้งแต่คิกออฟเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยได้ทำความเข้าใจผู้ปกครองถึงประโยชน์จากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีโรคประจำตัวหรือมีความพิการ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับ รพ.เอกชนเพิ่มจุดบริการฉีด ขณะนี้ฉีดไปแล้วประมาณ 6 พันโดส หรือ 6 พันราย ยังไม่มีการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ทั้งนี้ กรมฯ ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขยายบริการฉีดวัคซีนไปยังสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนทั่วประเทศ ซึ่งวันที่ 3 พ.ย. จะไปลงพื้นที่การฉีดวัคซีนที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีทั้งเด็กเล็กและเด็กกลุ่มเปราะบาง
นพ.ธเรศ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้สำรวจสาเหตุที่ผู้ปกครองยังไม่พาบุตรหลานมารับวัคซีน พบว่า 1.กังวลเรื่องความปลอดภัย ขอเรียนว่า ความปลอดภัยของวัคซีนยืนยันได้จากการขึ้นทะเบียนโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งสหรัฐฯ ฉีดเด็กเล็กไปก่อนหน้าไทยกว่าล้านโดสแล้ว รวมถึงราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ทั่วอาเซียนเห็นตรงกันว่ามีความปลอดภัยและคุ้มค่าในการฉีดเพื่อป้องกันโรค และ 2.สถานการณ์โรคโควิดดีขึ้น แต่ย้ำว่า เด็กเล็กมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า และมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า 5 เท่า รวมถึงใกล้จะเปิดเทอมในช่วงฤดูหนาวที่เชื้อก็กระจายได้ง่าย มีการคาดการณ์ว่าจะพบการระบาดโควิดในลักษณะคลื่นลูกเล็กๆ จึงอยากให้ผู้ปกครองพาลูกหลานมารับวัคซีน โดยคำแนะนำว่า สามารถฉีดวัคซีนโควิดร่วมกับวัคซีนโรคอื่นๆ ได้
เมื่อถามว่าวัคซีนเด็กเล็ก 3 ล้านโดสมาจากการปรับสัญญา หากใช้ไม่หมด จะขอเปลี่ยนไปเป็นวัคซีนรุ่นใหม่ได้หรือไม่ นพ.ธเรศ กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ฝาแดงเข้มสำหรับเด็กเล็ก เกิดจากการแลกเปลี่ยนวัคซีนทั่วไป ไม่ได้เป็นการซื้อใหม่ หากวัคซีนเหลือจริงก็อาจปรับเปลี่ยนไปเป็นตัวอื่นๆ ของบริษัท หรือดูแลเพื่อนบ้านให้ได้รับวัคซีนได้ด้วยขึ้นอยู่กับสถานการณ์