"อนุทิน" ชี้แนวโน้ม "โควิด" ยังลดลง ห่วงคนหยุดฉีดวัคซีนแค่เข็มสาม เหตุสถานการณ์เริ่มปกติ ทั้งที่ฉีด 4 เข็มปลอดภัยมากกว่า ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง ไม่เสียชีวิต ส่ง อสม.ตัวเชื่อมดูแลชาวบ้านมารับเข็มกระตุ้นเพิ่ม โดยเฉพาะ 608 ที่ฉีดกระตุ้นเพียง 43.4% ส่วน "ฝีดาษลิง" ไม่แพร่ทั่วไป
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2565 ว่า ที่ประชุมรายงานสถานการณ์โรคโควิด 19 ซึ่งแนวโน้มลดลง ประชาชนรับวัคซีนครอบคลุมมากกว่า 82% ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ได้รับ คือ เด็กต่ำ 5 ปี เราจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 6 เดือน - 4 ปีมาแล้ว 3 ล้านโดส จะมาครบในสิ้นปีนี้ เบื้องต้นมาแล้ว 5 แสนโดส กระจายทั่วประเทศและเริ่มฉีดแล้ว โดยคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ขอให้ฉีดเข็มกระตุ้น ซึ่งมีประโยชน์มากหลังผ่อนคลายมาตรการจนแทบปกติแล้ว ทำให้เห็นการชะลอตัวการฉีดเข็มสาม ทั้งที่เราฉีดเข็มสี่กันได้ จากการลงพื้นที่เห็นว่า พอสถานการณ์เริ่มปกติก็หยุดอยู่ที่เข็มสาม ซึ่งจริงๆ หากฉีดเข็มสี่จะปลอดภัยมากขึ้น แม้ติดเชื้อก็ไม่รุนแรงหรือเสียชีวิต
ทั้งนี้ เราต้องการให้ อสม.ดูแลชาวบ้าน มารับเข็มกระตุ้น ซึ่งเชื่อว่า นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งเคยกำกับดูแล ตอนนี้มาเป็นรักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรคก็จะมาขับเคลื่อนให้ภารกิจการควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมีการจัดกิจกรรมรวมพลัง อสม.ส่งต่อภูมิคุ้มกันสู่ 608 ต่อไป เนื่องจากยังรับเข็มกระตุ้นได้เพียง 43.4%
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษลิง พบผู้ป่วยยืนยันเป็นช่วงๆ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ ไม่มีผู้ติดเชื้อจากพฤติกรรมอื่นๆ ดังนั้น ประชาชนทั่วไปสามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าไม่สัมผัสใกล้ชิดมากกับกลุ่มเสี่ยงต่างๆ โอกาสแพร่ทั่วไปคงไม่เกิดขึ้น ไม่ถึงกับต้องเอามาเป็นความเสี่ยงด้านสาธารณสุข แต่คอยเฝ้าระวังคัดกรองตลอดเวลา