ปลัด สธ.เผยลงนามถ่ายโอน รพ.สต.เพิ่ม 2 จังหวัด "เชียงราย" 118 แหาง และ "นนทบุรี" 18 แห่ง รวม 8 จังหวัด 577 แห่ง ยังไม่พบปัญหาจัดบริการ พร้อมตั้งทีมดูแลภารกิจถ่ายโอน 4 ด้าน
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 3,263 แห่ง ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 49 จังหวัด ว่า หลังมอบอำนาจให้แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลงนามถ่ายโอนภารกิจ สอน.และ รพ.สต.ให้แก่ อบจ. ล่าสุดถึงวันที่ 12 ต.ค. 2565 มีการถ่ายโอนเพิ่มอีก 2 จังหวัด คือ เชียงราย และนนทบุรี ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นมา มีการถ่ายโอนแล้ว 8 จังหวัด รวม 577 แห่ง คือ ภูเก็ต 12 แห่ง สกลนคร 142 แห่ง นครปฐม 36 แห่ง ศรีสะเกษ 117 แห่ง ระยอง 40 แห่ง ปราจีนบุรี 94 แห่ง เชียงราย 118 แห่ง และนนทบุรี 18 แห่ง จากการติดตามยังไม่พบปัญหาในการจัดบริการประชาชน
"ได้ย้ำ สสจ.ที่จะลงนามถ่ายโอนว่า อบจ.ที่จะรับถ่ายโอนต้องมีความพร้อมและมีคุณสมบัติตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม และต้องพร้อมที่จะจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) และลูกจ้างชั่วคราวต่อจาก สธ.เพื่อให้การบริการประชาชนมีความต่อเนื่อง และบุคลากรไม่ได้รับผลกระทบ" นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า การถ่ายโอน ประชาชนต้องไม่ได้รับผลกระทบ ยังสามารถไปรับบริการได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการเพื่อรองรับการถ่ายโอนภารกิจฯ โดยตนเป็นประธานเอง กำกับติดตามการดำเนินงานในภาพรวม และตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านบริหารจัดการ มี นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. เป็นประธาน ดูแลเรื่องบุคลากร การเงินการคลัง ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง และการจัดระบบบริการ 2) ด้านกฎหมาย มี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 6 เป็นประธาน ทำหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ปัญหาและจัดทำแนวทาง/ข้อเสนอด้านกฎหมาย 3) ด้านวิชาการและติดตามประเมินผล มี นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง เป็นประธาน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหาด้านวิชาการ และติดตามประเมินผลที่เกิดขึ้นจากการถ่ายโอน และ 4) ด้านสื่อสารประชาสัมพันธ์ มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. เป็นประธาน ดำเนินการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการถ่ายโอน เพื่อสร้างความเข้าใจทั้งบุคลากรของสถานบริการที่ถ่ายโอนและประชาชนผู้รับบริการ