กรมควบคุมโรค เผยจัดฉีดวัคซีนโควิดเด็ก 6 เดือน - 4 ปี ผ่านศูนย์เด็กเล็กได้ ภายใต้การกำกับของแพทย์ ย้ำหลังฉีดสังเกตอาการ 30 นาที ติดตามจนครบ 1 เดือน ขอพ่อแม่พามาฉีดช่วยลดเสี่ยงติดเชื้อ ภาวะ MIS-C ห่วงอัตราตายสูงกว่าเด็กโต 3 เท่า
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี อัตราป่วยสูงเป็น 1.5 เท่า และเสียชีวิตสูงเป็น 3 เท่าของเด็กอายุ 5-9 ปี เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต ผู้ปกครองจึงควรพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามกำหนด โดยวัคซีนของไฟเซอร์ฝาสีแดงจะฉีดให้เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน - 4 ปี ปริมาณ 0.2 ซีซี ขนาด 3 ไมโครกรัม จำนวน 3 เข็ม เข็มสองห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มสามห่างเข็มสอง 2 เดือน หลังฉีดให้สังเกตอาการ 30 นาที และติดตามต่อจนครบ 1 เดือน โดยให้จัดจุดบริการแยกจากกลุ่มวัยอื่น เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้วัคซีน
“เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิต พร้อมสื่อสารถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์สีแดง ให้ผ่านระบบสถานพยาบาล หรืออาจพิจารณาให้วัคซีนในศูนย์เด็กเล็กภายใต้กำกับของแพทย์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.เห็นสมควร เริ่มฉีดวัคซีนได้เมื่อมีความพร้อม เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก ไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่เป็นเงื่อนไขในการไปโรงเรียน” นพ.ธเรศกล่าว
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนโควิดให้พร้อมกับวัคซีนอื่นๆ ในวันเดียวกันได้ หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง สหรัฐอเมริกามีการฉีดและติดตามล้านกว่าโดส พบผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิต ถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กและช่วยลดความเสี่ยงภาวะ MIS-C จากการติดเชื้อ ขณะนี้กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อให้กระจายต่อในพื้นที่ตามจำนวนที่แจ้งความประสงค์ ผู้ปกครองที่สนใจพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลทั่วประเทศ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.กำหนด
